คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1092/2481

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์เป็นเสมียนบริษัทได้ช่วยเหลือจำเลยให้ได้+ลากไม้ของบริษัทนาย+ตน จำเลยจึงทำหนังสือกู้ให้โจทก์ไว้เป็นราง+ ต่อมาโจทก์ได้ทำหนังสือให้ไว้แก่บริษัทนายจ้ามตนแสดงว่าโจทก์มิได้เป็นเจ้า+นี้จำเลย เพื่อปกปิดการที่โจทก์รับรางวัลจากจำเลยดังนี้ เอกสารปกปิดการกระทำของโจทก์นั้นไม่เข้าลักษณเป็นใบเสร็จรับเงินตามประมวลแพ่งฯ ม.326,653 อุทธรณ์ฎีกา คดีแพ่งทุนทรัพย์ 1250 บาท เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น คู่ความฎีกาได้แต่ฉะเพาะปัญหาข้อกฎหมายและต้องเป็นข้อที่ได้ว่ากันมาแล้วแต่ศาลชั้นต้นวัตถุประสงค์ของสัญญาเป็นการขัดขวางต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชนหรือไม่เป็นปัญหาข้อเท็จจริง

ย่อยาว

ได้ความว่าโจทก์เป็นเสมียนบริษัท บ.ได้ช่วยเหลือจำเลยให้ได้รับลากไม้ของบริษัทจำเลยจึงได้ทำหนังสือกู้เงินให้โจทก์ไว้ ๒๐๐๐ บาทและได้ใช้ให้แล้ว ๗๕๐ บาท อนึ่งโจทก์ได้ทำหนังสือขึ้นฉะบับหนึ่งให้ไว้แก่บริษัท บ.แสดงว่าโจทก์มิได้เป็นเจ้าหนี้จำเลยเพื่อปกปิดการที่โจทก์รับรางวัลจากจำเลย บัดนี้โจทก์ฟ้องเรียกเงิน ๑๒๕๐ บาทที่ค้างจากจำเลย ๆ ให้การต่อสู้ว่าสัญญาเป็นโมฆะ
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาต้องกันว่าสัญญาฉะบับนี้สมบูรณ์ไม่เป็นโมฆะ ให้จำเลยชำระหนี้ให้โจทก์
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาตัดสินว่าฎีกาของจำเลยที่ว่าสัญญารายนี้เป็นโมฆะเพราะผิดต่อ ม.๑๑๓ แห่งประมวลแพ่งฯ นั้น เห็นว่าศาลอุทธรณ์ชี้ขาดในข้อเท็จจริงว่าวัตถุประสงค์ไม่ขัดขวางต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน ฎีกาของจำเลยข้อนี้จึงตกไป ส่วนที่ว่าเอกสารที่โจทก์ทำให้แก่บริษัท บ.นายจ้างโจทก์นั้นเป็นใบรับเงินตาม ม.๓๒๖-๖๕๓ ก็เห็นได้ชัดว่าเอกสารฉะบับนี้เป็นหนังสือปกปิดการกระทำของโจทก์เท่านั้น จึงไม่เข้าบทมาตราที่จำเลยอ้าง ส่วนฎีกาอีกข้อหนึ่งของจำเลยก็มิได้ยกขึ้นต่อสู้มาแต่ศาลชั้นต้นต้องห้ามตามประมวลวิธีพิจารณาความแพ่ง ม.๒๔๙ วรรค ๑ จึงพิพากษาให้ยกฎีกาจำเลย

Share