คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1091/2529

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

มาตรา 57 แห่งพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 เป็นบทบัญญัติเกี่ยวกับผู้ที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งประสงค์จะพิสูจน์ว่าเป็นบุคคลมีสัญชาติไทย และให้สิทธิบุคคลผู้นั้นยื่นคำร้องต่อศาลได้ แต่กรณีของผู้ร้องไม่เคยออกไปนอกราชอาณาจักรเลยแต่อ้างว่าถูกสั่งถอนสัญชาติไทย ตามประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 337 ผู้ร้องจะร้องขอต่อศาลตามบทกฎหมายดังกล่าวไม่ได้ หากปรากฏว่ามีผู้โต้แย้งเกี่ยวกับสัญชาติของผู้ร้อง ก็ชอบที่จะดำเนินคดีอย่างมีข้อพิพาทต่อผู้ที่โต้แย้งสิทธิของผู้ร้อง

ย่อยาว

ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ผู้ร้องทั้งสิบเอ็ดคนเป็นบุตรของนางแอม ด่าว เชื้อชาติญวน สัญชาติญวน ซึ่งได้รับอนุญาตให้เข้ามาในราชอาณาจักรตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมือง กับนายลือหรือลิว ดว่านวัน คนญวนอพยพซึ่งได้รับอนุญาตให้เข้ามาในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว บิดามารดาผู้ร้องมิได้จดทะเบียนสมรส ผู้ร้องเกิดในราชอาณาจักรและได้สัญชาติไทยโดยการเกิด เมื่อเดือนเมษายน ๒๕๒๕ ผู้ร้องที่ ๑ ไปขอต่ออายุบัตรประจำตัวประชาชนซึ่งหมดอายุต่อนายทะเบียนราษฎร์ อำเภอเมืองนครพนม แต่นายทะเบียนไม่ต่อให้ อ้างว่าผู้ร้องทุกคนถูกถอนสัญชาติไทยเป็นสัญชาติญวนตามประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๓๓๗ ต่อมาวันที่ ๒ สิงหาคม ๒๕๒๕ ผู้ร้องได้ยื่นคำร้องขอพิสูจน์สัญชาติต่อเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดนครพนม ได้รับแจ้งว่าการถอนสัญชาติเป็นการถูกต้อง ผู้ร้องไม่มีสิทธิยื่นคำร้องพิสูจน์สัญชาติ ผู้ร้องทั้งสิบเอ็ดคนมิได้อยู่ในหลักเกณฑ์ที่จะต้องถูกถอนสัญชาติ ขอให้มีคำสั่งว่าผู้ร้องทั้งสิบเอ็ดคนเป็นบุคคลมีสัญชาติไทย
พนักงานอัยการจังหวัดนครพนมคัดค้านว่า ตามคำร้องได้มีผู้โต้แย้งสิทธิของผู้ร้องแล้ว การเสนอข้อหาของผู้ร้องจึงต้องทำเป็นคดีมีข้อพิพาท คดีนี้มิใช่คดีร้องขอพิสูจน์สัญชาติตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง นางแอม ด่าว ได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเพียงชั่วคราว ผู้ร้องทั้งสิบเอ็ดคนไม่ได้สัญชาติไทยเพราะมีบิดาเป็นคนต่างด้าว และขณะผู้ร้องเกิดบิดาผู้ร้องได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเพียงชั่วคราว ผู้ร้องจึงต้องถูกถอนสัญชาติไทย ตามประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๓๓๗ ขอให้ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า คดีของผู้ร้องไม่มีกฎหมายสนับสนุนหรือรับรองให้ใช้สิทธิทางศาล แต่เป็นการโต้แย้งสิทธิของผู้ร้อง ผู้ร้องชอบที่จะฟ้องผู้โต้แย้งสิทธิเป็นคดีมีข้อพิพาท และไม่มีอำนาจร้องคดีนี้ มีคำสั่งยกคำร้อง
ผูร้องทั้งสิบเอ็ดอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ผู้ร้องทั้งสิบเอ็ดฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ปัญหาตามฎีกาของผู้ร้องว่า ผู้ร้องมีสิทธิยื่นคำร้องต่อศาลว่าผู้ร้องทั้งสิบเอ็ดมีสัญชาติไทย โดยที่ไม่ต้องยื่นฟ้องผู้ที่โต้แย้งสิทธิของผู้ร้องเป็นคดีมีข้อพิพาท และยื่นคำร้องในคดีนี้ได้ตาม มาตรา ๕๗ แห่งพระราชบัญญัติคนเข้าเมืองนั้น เห็นว่าบทบัญญัติดังกล่าวเป็นบทบัญญัติเกี่ยวกับผู้ที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร ซึ่งประสงค์จะพิสูจน์ว่าเป็นบุคคลที่มีสัญชาติไทย บทบัญญัติดังกล่าวให้สิทธิบุคคลผู้นั้นยื่นคำร้องต่อศาลได้ แต่ตามกรณีของผู้ร้องคดีนี้ ผู้ร้องทั้งสิบเอ็ดไม่เคยออกไปนอกราชอาณาจักรเลย แต่อ้างว่าถูกผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมถอนสัญชาติไทยตามประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๓๓๗ ผู้ร้องจึงจะร้องขอต่อศาลตามบทกฎหมายดังกล่าวไม่ได้ หากปรากฏว่ามีผู้โต้แย้งเกี่ยวกับสัญชาติของผู้ร้อง ผู้ร้องก็ชอบที่จะดำเนินคดีอย่างมีข้อพิพาทต่อผู้ที่โต้แย้งสิทธิของผู้ร้อง
พิพากษายืน

Share