แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
พระราชบัญญัติยาสูบ พ.ศ. 2509 มาตรา 26 และ 51 ลงโทษผู้นำใบยาแห้งพันธุ์ต่างประเทศตั้งแต่หนึ่งกิโลกรัมขึ้นไป ออกนอกเขตจังหวัดโดยไม่ได้รับอนุญาต โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามบทบัญญัตินี้ ต่อมาระหว่างพิจารณาของศาลฎีกา มีพระราชบัญญัติยาสูบ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2513 ออกใช้บังคับ โดยมาตรา 13 และ 19 บัญญัติให้ยกเลิก มาตรา 26 และ 51 ดังกล่าว เมื่อเป็นเช่นนี้ การกระทำของจำเลยตามฟ้องย่อมไม่เป็นความผิดต่อไป ต้องยกฟ้องโจทก์
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยร่วมกันนำใบยาเวอร์ยีเนียน้ำหนัก ๓,๗๖๓ กิโลกรัม ออกนอกเขตจังหวัดเชียงใหม่เข้ามาในเขตจังหวัดลำพูนโดยไม่ได้รับอนุญาต ขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติยาสูบ พ.ศ. ๒๕๐๙ มาตรา ๒๖, ๕๑ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๘๓
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยที่ ๑ มีความผิดตามพระราชบัญญัติยาสูบ พ.ศ. ๒๕๐๙ มาตรา ๒๖, ๕๑ ให้ปรับจำเลยที่ ๑ ตามน้ำหนักใบยาของกลางกิโลกรัมละ ๖๐ บาท เป็นเงิน ๒๒๕,๗๘๐ บาท ไม่ชำระค่าปรับให้กักขังแทนมีกำหนด ๒ ปี ให้ยกฟ้องคดีเฉพาะจำเลยที่ ๒ ที่ ๓
จำเลยที่ ๑ อุทธรณ์ข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ ให้ยกฟ้องสำหรับจำเลยที่ ๑ ด้วย
โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยที่ ๑ ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยที่ ๑ ฎีกาเฉพาะปัญหาข้อกฎหมาย
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ระหว่างพิจารณาของศาลฎีกา มีพระราชบัญญัติยาสูบ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๑๒ มาตรา ๑๓ และ ๑๙ ให้ยกเลิกบทบัญญัติที่เป็นความผิดตามฟ้องผลจึงเป็นว่าการฝ่าฝืนมาตรา ๒๖, ๕๑ แห่งพระราชบัญญัติยาสูบ พ.ศ. ๒๕๐๙ ไม่ถือว่าเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒
พิพากษายืนในผลที่ให้ยกฟ้องโจทก์