คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 109/2492

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

พินัยกรรมทำเมื่อก่อนใช้พระราชบัญญัติว่าด้วยการทำพินัยกรรมพ.ศ.2475 และก่อนใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 6 ต้องใช้กฎหมายลักษณะมรดก บทที่ 49 บังคับ
ผู้ตายทำพินัยกรรมเมื่อใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์บรรพ 1แล้ว ในพินัยกรรมมีพยานลงลายมือชื่อเพียง 2 คน และมีผู้พิมพ์ลายมืออีก 2 คน แต่ไม่มีพยานลงลายมือชื่อรับรองลายพิมพ์นิ้วมือ ดังนี้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 1 มาตรา 9 บังคับให้มีพยานรับรองลายพิมพ์นิ้วมือพินัยกรรมดังกล่าวจึงมีผู้ลุกนั่งเพียง 2 คน ไม่ครบ 3 คนตามกฎหมายลักษณะมรดก บทที่ 49 จึงไม่สมบูรณ์

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องเรียกมรดกของนางเขียว อันเป็นส่วนของโจทก์จากจำเลย จำเลยให้การว่าที่ดินอันดับ 1, 2 นางเขียวทำพินัยกรรมยกให้จำเลย ส่วนทรัพย์อื่นไม่มีอยู่ที่จำเลย

ศาลชั้นต้นฟังว่า พินัยกรรมที่กล่าวนั้น ทำเมื่อก่อนใช้พระราชบัญญัติว่าด้วยการทำพินัยกรรม 2475 และก่อนใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 6 พินัยกรรมสมบูรณ์หรือไม่ ต้องวินิจฉัยตามกฎหมายลักษณะมรดก บทที่ 49 บังคับ แต่พินัยกรรมฉบับนี้มีพยานลงลายมือชื่อเพียง 2 คน ยังขาดผู้ลุกนั่งอีกคนหนึ่ง พินัยกรรมจึงไม่สมบูรณ์ แม้มีผู้พิมพ์ลายมือในพินัยกรรมอีก 2 คน แต่ไม่มีพยานลงลายมือชื่อรับรองพิมพ์ลายมือทั้ง 2 จึงเห็นว่าเป็นผู้ลุกนั่งไม่ได้ พินัยกรรมจึงไม่สมบูรณ์ พิพากษาให้แบ่งทรัพย์อันดับ 1, 2 ให้โจทก์ครึ่งหนึ่ง ทรัพย์อันดับ 5 ให้ขายทอดตลาดเอาเงินแบ่งให้โจทก์ 1 ใน 4 ศาลอุทธรณ์ฟังว่า พินัยกรรมมีพยานผู้ลุกนั่ง 4 คนสมบูรณ์ตามกฎหมายลักษณะมรดกบทที่ 49 พิพากษาว่าทรัพย์อันดับ 1, 2 เป็นของจำเลย นอกนั้นไม่มีอยู่ที่จำเลยให้ยก

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เมื่อผู้ตายทำพินัยกรรม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 1 ประกาศใช้แล้ว ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์บรรพ 1 มาตรา 9 บังคับให้มีพยานรับรองลายพิมพ์นิ้วมือ เมื่อเป็นดังนี้ ลายพิมพ์นิ้วมือที่ไม่มีพยานรับรองก็ใช้ไม่ได้ พินัยกรรมฉบับนี้ก็เหลือพยานผู้ลุกนั่งเพียงสองคนเท่านั้น ไม่ครบสามคนตามกฎหมายลักษณะมรดก บทที่ 49 จึงไม่สมบูรณ์

พิพากษาแก้ ให้แบ่งทรัพย์หมายเลข 1 และ 2 ระหว่างโจทก์ จำเลยคนละครึ่ง

Share