คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1088/2505

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คดีที่โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทำร้ายร่างกาย ผู้เสียหายบาดเจ็บสาหัสตามมาตรา 256 แม้ทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยทำร้ายไม่ถึงสาหัสก็ตาม ก็ไม่ถือว่าข้อเท็จจริงตามทางพิจารณาต่างกับที่กล่าวในฟ้อง ลงโทษจำเลยฐานทำร้ายร่างกายตามมาตรา 254 ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ ๑ ได้ใช้นำกรดกำมะถันสาดนายบุ้นเซ็งถูกตามร่างกาย ทำให้นายบุ้นเซ็งได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยจำเลยที่ ๒ ถึงที่ ๖ ได้สมคบกันใช้อุบายเสี้ยมสอนและจ้างวาน ขอให้ลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา ๒๕๖, ๑๗๔, ๑๗๖, ๖๓, ๖๔, ๗๒
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยที่ ๑ มีความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา ๒๕๔ ให้จำคุก ๒ ปี ส่วนจำเลยที่ ๒ ถึงที่ ๖ ให้ยกฟ้อง
โจทก์ร่วมและจำเลยที่ ๑ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ ๑ ฎีกาว่า เมื่อโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา ๒๕๖ โดยมิได้ระบุอ้างมาตรา ๒๕๔ มาด้วยเช่นนี้ คดีต้องยกฟ้อง
ศาลฎีกาเห็นว่า การที่กล่าวในฟ้องว่าจำเลยทำร้ายร่างกายโจทก์ร่วมมีบาดเจ็บถึงสาหัส แต่พิจารณาได้ความว่าจำเลยทำร้ายร่างกายโจทก์ร่วมไม่ถึงสาหัสดังรูปเรื่องในคดีนี้ ต้องถือว่ามิใช่แตกต่างกันในข้อสารสำคัญ และมิได้ทำให้จำเลยหลงต่อสู้คดีแต่อย่างใด ทั้งอัตราโทษฐานทำร้ายร่างกายไม่ถึงสาหัสตามมาตรา ๒๕๔ ก็เบากว่าอัตราโทษฐานทำร้ายร่างกายสาหัสตามมาตรา ๒๕๖ ลงโทษจำเลยตามมาตรา ๒๕๔ จึงไม่เกินคำขอของโจทก์ อีกประการหนึ่ง การกระทำอันเป็นความผิดฐานทำร้ายร่างกายถึงสาหัสย่อมรวมการกระทำอันเป็นความผิดฐานทำร้ายร่างกายไม่ถึงสาหัสอยู่ด้วยในตัว หากเป็นการนอกฟ้องหรือเกินคำขอของโจทก์ไม่ ฉะนั้น ที่ศาลทั้งสองพิพากษาลงโทษจำเลยที่ ๑ ตามมาตรา ๒๕๔ มานั้น จึงไม่เป็นการต้องห้ามตามกฎหมายดังที่จำเลยที่ ๑ ฎีกาโต้แย้งขึ้นมา
พิพากษายืน

Share