คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1088/2496

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้ร้องร้องขัดทรัพย์ว่าทรัพย์ที่ยึดเป็นของตน คดีถึงที่สุดศาลได้ชี้ขาดว่าทรัพย์ที่ยึดมิใช่เป็นของผู้ร้อง แต่เป็นของลูกหนี้ ดังนี้ ผู้ร้องย่อมไม่มีสิทธิใด ๆ ในทรัพย์ที่ยึดนั้น ฉะนั้น ผู้ร้องจะร้องขอชำระเงินให้เจ้าหนี้ตามคำพิพากษา เพื่อขอให้ศาลส่งคืนทรัพย์ที่ยึดให้แก่ผู้ร้องขัดทรัพย์อีกนั้น ย่อมมิใช่เป็นการเสนอคดีต่อศาลตามความหมายของ ป.วิ.แพ่ง มาตรา 55 ศาลย่อมไม่รับคำร้องดังกล่าวไว้พิจารณา

ย่อยาว

เรื่องเดิมเจ้าหนี้ตามคำพิพากษายึดเรือน ๑ หลัง ตีราคา ๒,๐๐๐ บาท ของลูกหนี้ตามคำพิพากษาเพื่อขายทอดตลาดใช้หนี้ นายหวนผู้ร้อง ๆ ขัดทรัพย์ว่าเรือนเป็นของผู้ร้อง ศาลชั้นต้นศาลอุทธรณ์พิพากษาว่า เรือนที่ยึดเป็นของลูกหนี้ตามคำพิพากษา มิใช่เป็นของผู้ร้องขัดทรัพย์ และคดีถึงที่สุดแล้ว
หลังจากคดีถึงที่สุดแล้ว นายหวนผู้ร้องขัดทรัพย์ยื่นคำร้องขอชำระเงิน ๒,๐๐๐ บาท ให้เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาพร้อมทั้งค่า ธรรมเนียมก่อนขายทอดตลาด เพื่อขอให้ศาลสั่งคืนเรือนที่ยึดให้แก่ผู้ร้องขัดทรัพย์
ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ผู้ร้องฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า คดีเป็นปัญหาข้อกฎหมายให้รับฎีกา
ศาลฎีกาได้ประชุมพิจารณาแล้ว คดีถึงที่สุดศาลได้ชี้ขาดแล้วว่า เรือนพิพาทรายนี้มิใช่เป็นของผู้ร้อง ๆ จึงไม่มีสิทธิใด ๆ ในเรือนพิพาทนี้ การที่ผู้ร้อง ๆ ขอเข้ามาเท่ากับเป็นการเสนอขอรับโอน หรือรับซื้อเรือนรายนี้เท่านั่นมิใช่เป็นการเสนอ คดีต่อศาลตามความหมายของ ป.วิ.แพ่ง มาตรา ๕๕ จึงให้ยกฎีกา

Share