แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงต้องกันว่าจำเลยและผู้ตายสมัครใจต่อสู้กัน ไม่ใช่เป็นการป้องกัน ฉะนั้นการที่จำเลยขอให้วินิจฉัยว่าการกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันหรือไม่ จึงเป็นฎีกาในข้อเท็จจริง และที่จำเลยอ้างว่าความตายของผู้ตายไม่ใช่เกิดจากการกระทำของจำเลยโดยตรงแต่ตายเพราะเหตุอื่นนั้น ก็เป็นฎีกาเถียงข้อเท็จจริงดุจกัน เพราะศาลทั้งสองฟังแล้ว ว่าผู้ตายตายเพราะการกระทำของจำเลย
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยฆ่าคนตายโดยเจตนา ขอให้ลงโทษ
จำเลยภาคเสธต่อสู้ว่า ได้กระทำโดยป้องกันตัว
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงต้องกันว่า จำเลยและผู้ตายต่างสมัครใจวิวาทกัน จำเลยแทงผู้ตายทีเดียว หากถูกทารกในครรภ์ตาย เป็นเหตุให้ผู้ตายถึงแก่ความตาย จึงผิดเพียงฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา พิพากษาว่าจำเลยผิดตามมาตรา 251 จำคุก 3 ปี มีดของกลางริบ
จำเลยฎีกาอ้างเป็นปัญหาข้อกฎหมาย
ศาลฎีกาเห็นว่า คดีนี้ศาลล่างทั้งสองฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยและผู้ตายสมัครใจต่อสู้กัน ไม่ใช่เป็นการป้องกัน ที่จำเลยขอให้วินิจฉัยว่าการกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันหรือไม่จึงเป็นฎีกาในข้อเท็จจริง และที่จำเลยอ้างว่าความตายของผู้ตายไม่ใช่เกิดจากการกระทำของจำเลยโดยตรง แต่ตายเพราะเหตุอื่นนั้น ก็เป็นฎีกาเถียงข้อเท็จจริงดุจกัน เพราะศาลทั้งสองฟังว่าแล้วว่า ผู้ตาย ตายเพราะการกระทำของจำเลย ฎีกาของจำเลยจึงต้องห้ามจะรับไว้พิจารณาไม่ได้ ให้ยกเสีย