แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
คดีนี้เกิดขึ้นภายในบริเวณโรงเรียนบ้านคลองสุดซึ่งมิใช่บนทางหลวงหรือทางสาธารณะที่กำหนดให้รถสัญจรไปมา แม้จำเลยจะเป็นผู้ขับรถกระบะโดยไม่มีใบอนุญาตขับรถ การกระทำของจำเลยก็ไม่เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.รถยนต์ พ.ศ.2522 มาตรา 64 ศาลล่างทั้งสองจึงไม่อาจพิพากษาลงโทษจำเลยในความผิดฐานนี้ ปัญหาข้อนี้เป็นปัญหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้ไม่มีคู่ความฝ่ายใดยกขึ้นอุทธรณ์ฎีกา ศาลฎีกามีอำนาจหยิบยกขึ้นวินิจฉัยได้เองตาม ป.วิ.อ. มาตรา 195 วรรคสอง ประกอบมาตรา 225
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องและแก้ไขคำฟ้องขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 334, 335, 357, 91 พระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 มาตรา 64
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335 (8) พระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 มาตรา 64 การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ฐานลักทรัพย์ในสถานที่ราชการ จำคุก 2 ปี ฐานขับรถโดยไม่ได้รับใบอนุญาตขับรถ จำคุก 1 เดือน จำเลยให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ลดโทษให้หนึ่งในสาม คงจำคุกฐานลักทรัพย์ในสถานที่ราชการ 16 เดือน และฐานขับรถโดยไม่ได้รับใบอนุญาตขับรถ 20 วัน รวมจำคุก 16 เดือน 20 วัน ยกฟ้องข้อหาอื่น
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 334 ลงโทษจำคุก 1 ปี ลดโทษให้หนึ่งในสาม ตามมาตรา 78 แล้ว คงจำคุก 8 เดือน เมื่อรวมกับโทษฐานขับรถโดยไม่ได้รับใบอนุญาตขับรถอีกกระทงหนึ่ง เป็นจำคุก 8 เดือน 20 วัน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา โดยผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาศาลชั้นต้นอนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า บทบัญญัติตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 มาตรา 64 นี้มุ่งหมายที่จะควบคุมผู้ขับรถบนทางหลวงหรือทางสาธารณะโดยคำนึงถึงความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินของผู้ใช้รถใช้ถนนร่วมกันเป็นสำคัญ จึงต้องมีการทดสอบสมรรถนะและความสามารถในการขับรถของบุคคลต่าง ๆ เสียก่อนที่จะออกใบอนุญาตขับรถ และกำหนดบทลงโทษผู้ขับรถบนทางหลวงหรือทางสาธารณะที่ไม่ได้รับใบอนุญาตขับรถ เมื่อเหตุคดีนี้เกิดขึ้นภายในบริเวณโรงเรียนบ้านคลองสุดซึ่งมิใช่บนทางหลวงหรือทางสาธารณะที่กำหนดให้รถสัญจรไปมา แม้จำเลยจะปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ขับรถกระบะคันนั้นโดยไม่ได้รับใบอนุญาตขับรถ การกระทำของจำเลยก็ไม่ต้องด้วยองค์ประกอบความผิดดังกล่าว ศาลล่างทั้งสองจึงไม่อาจพิพากษาลงโทษจำเลยในความผิดฐานนี้ ปัญหาข้อนี้เป็นปัญหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้ไม่มีคู่ความฝ่ายใดยกขึ้นอุทธรณ์ฎีกา ศาลฎีกามีอำนาจหยิบยกขึ้นวินิจฉัยได้เองตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 195 วรรคสอง ประกอบมาตรา 225
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องในข้อหาความผิดตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ.2522 มาตรา 64 นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 3