คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1084/2510

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การชำระดอกเบี้ยไม่จำต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 653 วรรคสอง จึงนำสืบพยานบุคคลว่าได้ชำระดอกเบี้ยแล้วได้ (อ้างฎีกาที่ 243/2503)
การชำระหนี้ด้วยเช็ค เป็นการชำระหนี้ด้วยการออกตั๋วเงินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 321 วรรคสาม ย่อมถือได้ ว่าเป็นการชำระหนี้อย่างอื่นซึ่งมิใช่การชำระหนี้ด้วยเงิน ฉะนั้น แม้จะไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 653 ก็ย่อมรับฟังพยานบุคคลที่นำมาสืบในเรื่องการชำระหนี้ได้ (อ้างฎีกาที่ 767/2505)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยจำนองที่ดินไว้กับโจทก์แล้วไม่ยอมไถ่ถอนขอให้ศาลบังคับให้จำเลยไถ่ถอนพร้อมทั้งชำระดอกเบี้ย

จำเลยให้การว่า จำเลยได้จำนองที่ดินไว้แก่โจทก์จริง เมื่อครบกำหนดโจทก์ขอให้จำเลยไถ่ถอน จำเลยไม่มีเงินจึงชำระดอกเบี้ยทั้งหมดให้โจทก์ แต่โจทก์ไม่ยอมออกใบรับเงินให้ ต่อมาเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2505 จำเลยได้ผ่อนชำระเงินต้นให้โจทก์โดยออกเช็คให้ จำเลยจึงคงค้างต้นเงินอยู่เพียง 10,000 บาท กับดอกเบี้ยจนถึงวันฟ้องตอนหนึ่ง กับค้างชำระต้นเงิน 20,000 บาท ตั้งแต่วันครบกำหนดไถ่ถอนจนถึงวันที่ 19 กรกฎาคม 2505 อีกตอนหนึ่งเท่านั้น

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า ไม่เชื่อว่าจำเลยได้ผ่อนชำระต้นเงินจำนองกับดอกเบี้ยให้โจทก์ ให้ยึดทรัพย์จำนองออกมาขายทอดตลาดนำเงินมาชำระหนี้จำนองและดอกเบี้ย

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่า เชื่อว่าจำเลยได้ชำระดอกเบี้ยและผ่อนชำระต้นเงินให้แก่โจทก์แล้ว พิพากษาแก้ให้ยึดทรัพย์จำนองขายทอดตลาด ชำระหนี้จำนองในต้นเงิน 10,000 บาท พร้อมทั้งดอกเบี้ยนอกนั้นให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า พยานจำเลยรับฟังได้ว่าจำเลยได้ชำระดอกเบี้ยแก่โจทก์แล้ว และการชำระดอกเบี้ยไม่จำต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 653 วรรค 2 จึงนำสืบพยานบุคคลว่าได้ชำระดอกเบี้ยแล้วได้ ดังนัยฎีกาที่ 243/2503 และจำเลยได้ผ่อนชำระต้นเงินจำนอง 10,000 บาท โดยจ่ายเป็นเช็คให้โจทก์และโจทก์นำเช็คไปขึ้นเงินมาแล้ว การชำระหนี้ด้วยเช็คเป็นการชำระหนี้ด้วยการออกตั๋วเงินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 321 วรรค 3 ถือได้ว่าเป็นการชำระหนี้อย่างอื่น ซึ่งมิใช่การชำระหนี้ด้วยเงิน ฉะนั้น แม้จะไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 653 ก็รับฟังพยานบุคคลที่จำเลยนำสืบในเรื่องการชำระหนี้นั้นได้ดังนัยฎีกาที่ 767/2505

พิพากษายืนยกฎีกาโจทก์

Share