คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1083/2542

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยลักยางพาราซึ่งเป็น ผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการกสิกรรมมิได้กล่าวในฟ้องว่าเป็น ยางพาราของเจ้าของทรัพย์ผู้มีอาชีพกสิกรรม จึงขาดองค์ประกอบ ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335(12)ลงโทษตามบทกฎหมายดังกล่าวไม่ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกับพวก 2 คน ที่ยังไม่ได้ตัวมาฟ้องร่วมกันเข้าไปในเคหสถานที่ลักทรัพย์ยางพาราที่เป็นผลิตภัณฑ์ได้มาจากการกสิกรรม 20 แผ่น ราคา 960 บาท ของนายเกาะยา สะนิ ผู้เสียหาย โดยใช้รถยนต์เป็นยานพาหนะเพื่อความสะดวกในการกระทำความผิดและพาทรัพย์นั้นไป ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 334, 335(1)(8)(12), 336 ทวิ ให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ที่ยังไม่ได้คืน 960 บาท แก่ผู้เสียหาย นับโทษจำเลยต่อจากโทษในคดีอาญาหมายเลขดำที่ 1131/2540 และ 1132/2540 ของศาลชั้นต้น
จำเลยให้การปฏิเสธ แต่รับว่าเป็นบุคคลคนเดียวกับจำเลยในคดีที่โจทก์ขอให้นับโทษต่อ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335(1)(7)(8)(12) วรรคสาม,336 ทวิ จำคุก 3 ปี ชั้นจับกุมและชั้นสอบสวนจำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 2 ปีให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาแทนทรัพย์ที่ยังไม่ได้คืน 960 บาทแก่ผู้เสียหาย นับโทษจำคุกต่อจากโทษจำคุกในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 950/2541 และ 951/2541 ของศาลชั้นต้น
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ที่ยังไม่ได้คืนเป็นเงิน 720 บาท แก่ผู้เสียหาย นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา โดยผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาศาลชั้นต้นอนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “พิเคราะห์แล้ว ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าวันเวลาเกิดเหตุตามฟ้องมีคนร้ายลักยางพารา 20 แผ่นของผู้เสียหายไป มีปัญหาต้องวินิจฉัยว่าจำเลยเป็นคนร้ายหรือไม่เห็นว่า คดีนี้แม้โจทก์จะไม่มีประจักษ์พยานเห็นจำเลยกระทำผิดแต่จำเลยให้การรับสารภาพมาตั้งแต่ชั้นจับกุม ชั้นสอบสวนนำชี้ที่เกิดเหตุแสดงการลักทรัพย์ประกอบกับคำพยานและพฤติการณ์แวดล้อมแล้ว ฟังได้ว่าจำเลยกระทำผิดฐานลักทรัพย์ ของผู้เสียหายพยานหลักฐานจำเลยไม่สามารถหักล้างพยานโจทก์ ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น แต่ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาว่า จำเลยมีความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335(12)ด้วยนั้น โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยลักยางพาราซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการกสิกรรม มิได้กล่าวในฟ้องว่า เป็นยางพาราของเจ้าทรัพย์ผู้มีอาชีพกสิกรรมขาดองค์ประกอบความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 335(12) จะลงโทษตามบทกฎหมายดังกล่าวไม่ได้”
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 335(1)(7)(8) วรรคสาม ประกอบด้วยมาตรา 336 ทวินอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 3

Share