คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1083/2510

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้ตายกับจำเลยสมัครใจชกมวยพนันเอาเงินกันโดยไม่ได้รับอนุญาตจะถือว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นผู้เสียหายตามกฎหมายไม่ได้ เมื่อผู้ตายถึงแก่ความตายเพราะการชกมวยนั้น ผู้ตายก็ไม่ใช่ผู้เสียหายตามกฎหมายบิดาของผู้ตายย่อมไม่มีอำนาจฟ้องคดีแทนผู้ตายได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 ได้ชกมวยกับผู้ตายซึ่งเป็นบุตรโจทก์โดยการสนับสนุนร่วมมือของจำเลยที่ 2 ถึงที่ 7 เพื่อพนันเอาเงินและมิได้รับอนุญาตจากทางราชการเป็นเหตุให้ผู้ตายถึงแก่ความตายขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 290, 83, 86

จำเลยทั้งหมดให้การว่า ผู้ตายกับจำเลยที่ 1 ชกมวยโดยมีการพนันกันจำเลยที่ 2 ไม่ได้สนับสนุนให้มีการกระทำผิด จำเลยที่ 3 ถึงที่ 7เป็นกรรมการพี่เลี้ยงการชกเสมอกัน ผู้ตายเป็นลม ระหว่างไปโรงพยาบาลผู้ตายตกจากเปลศีรษะกระแทกพื้นรถยนต์เป็นเหตุให้ตายโจทก์ไม่ใช่ผู้เสียหาย

ศาลชั้นต้นฟังว่า จำเลยที่ 1 กับผู้ตายเจตนาแข่งขันชกมวยจำเลยที่ 1 ไม่ผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 290 จำเลยที่ 2ถึงที่ 7 ไม่ใช่ตัวการหรือผู้สนับสนุนผู้ตายไม่ใช่ผู้เสียหายตามกฎหมายโจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องแทนผู้ตาย พิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า เหตุที่ผู้ตายตายเกิดจากสมัครใจเข้าชกมวยกันเป็นกีฬาต่างฝ่ายไม่มีเจตนาละเมิดกฎหมาย ไม่มีความผิดพิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า การที่จำเลยกับผู้ตายชกมวยกัน จะถือว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นผู้เสียหายตามกฎหมายไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องสมัครใจเข้าชกมวยซึ่งกันและกัน เมื่อผู้ตายไม่ใช่ผู้เสียหายตามกฎหมายบิดาของผู้ตายก็ไม่มีอำนาจฟ้องคดี

พิพากษายืน

Share