คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1082/2533

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

บิดามารดาโจทก์ยินยอมให้จำเลยทำถนนผ่านที่ดินของโจทก์ซึ่งขณะนั้นเป็นผู้เยาว์ โดยโจทก์รู้เห็นด้วยตั้งแต่ขณะจำเลยเริ่มทำและไม่เคยโต้แย้งคัดค้านมาก่อน จึงถือได้ว่าโจทก์ยินยอมให้ทางราชการทำถนนผ่านที่ดินของโจทก์แล้วการที่โจทก์มีอายุ19 ปีเศษ เป็นนักศึกษาระดับอุดมศึกษา ซึ่งถือว่ามีความรู้สึกผิดชอบและรอบรู้ถึงผลดีผลเสียแห่งการกระทำของตนได้เป็นอย่างดีแล้วได้ยินยอมให้จำเลยทำถนนผ่านที่ดินของโจทก์โดยเข้าใจว่าบิดามารดาโจทก์จะได้รับสัมปทานเดินรถบนถนนสายดังกล่าว แต่ต่อมาเมื่อบิดามารดาโจทก์ไม่ได้รับอนุมัติสัมปทาน โจทก์จึงนำคดีมาฟ้องกล่าวหาว่าจำเลยทำละเมิดและขอให้บังคับจำเลยรื้อถอนถนนดังกล่าวออกไปจากที่ดินโจทก์ จึงเป็นกรณีที่โจทก์ใช้สิทธิโดยไม่สุจริตขัดต่อประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 5 โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องโดยไม่จำต้องวินิจฉัยว่าการให้ความยินยอมของโจทก์มิได้รับอนุญาตจากศาลเป็นการขัดต่อ ป.พ.พ. มาตรา 1574 หรือไม่.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสามร่วมกันทำละเมิดบุกรุกเข้ามาทำถนนในที่ดินของโจทก์โดยมิได้รับความยินยอมจากโจทก์ เป็นเหตุให้โจทก์เสียหาย ขอให้บังคับจำเลยทั้งสามรื้อถอน ทำลายถนนดังกล่าวออกไปและร่วมกันชดใช้ค่าเสียหาย
จำเลยทั้งสามให้การว่า โจทก์ยินยอมยกที่ดินของโจทก์เพื่อเป็นทางสาธารณะทำถนนผ่านได้ ขอให้ยกฟ้อง
ระหว่างพิจารณา จำเลยทั้งสามขอให้ศาลหมายเรียกนางสมวงษ์ สำรวยผล มารดาโจทก์เข้าเป็นจำเลยร่วม ศาลชั้นต้นอนุญาต
จำเลยร่วมให้การว่า ที่ดินพิพาทเป็นของโจทก์ จำเลยร่วมตกลงกับจำเลยที่ 1 ยอมให้ทางราชการทำถนนผ่านที่ดินของโจทก์ได้โดยมีเงื่อนไขว่าจำเลยที่ 1 ยินยอมมอบสัมปทานการเดินรถบนถนนสายดังกล่าวให้จำเลยร่วม เมื่อทำถนนแล้วจำเลยที่ 1 ไม่ยอมรับรู้ปฏิบัติตาม จำเลยร่วมจึงไม่ต้องรับผิดชอบต่อโจทก์
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า การกระทำของจำเลยทั้งสามไม่เป็นละเมิดและคดีของโจทก์ขาดอายุความ พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า โจทก์ได้ทราบถึงการที่บิดามารดาโจทก์ยินยอมให้จำเลยทำถนนพิพาทผ่านที่ดินโจทก์ตั้งแต่ขณะเริ่มทำแล้วพฤติการณ์ที่โจทก์ได้มอบอำนาจให้มารดานำที่ดินดังกล่าวไปจัดการหาผลประโยชน์ติดต่อกันตลอดมา รวมทั้งการที่บิดามารดาโจทก์ยินยอมให้จำเลยทั้งสามทำถนนผ่านที่ดินโจทก์โดยโจทก์ก็รู้เห็นด้วย และไม่เคยโต้แย้งคัดค้านมาก่อนเลยเช่นนี้ถือได้ว่าโจทก์ยินยอมให้ทางราชการทำถนนพิพาทผ่านที่ดินของโจทก์การที่โจทก์มีอายุ 19 ปีเศษ เป็นนักศึกษาระดับอุดมศึกษาซึ่งถือว่ามีความรู้สึกผิดชอบและรอบรู้ถึงผลดีผลเสียแห่งการกระทำของตนได้เป็นอย่างดีแล้ว ได้ยินยอมให้จำเลยทั้งสามทำถนนผ่านที่ดินของโจทก์โดยเข้าใจว่าบิดามารดาโจทก์จะได้รับสัมปทานเดินรถบนถนนสายดังกล่าว ต่อมาเมื่อบิดามารดาโจทก์ไม่ได้รับอนุมัติสัมปทานโจทก์จึงนำคดีมาฟ้องกล่าวหาว่าจำเลยทั้งสามทำละเมิดและขอให้บังคับจำเลยรื้อถอนถนนพิพาทออกไปจากที่ดินโจทก์เช่นนี้ จึงเป็นกรณีที่โจทก์ใช้สิทธิโดยไม่สุจริต ขัดต่อบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 5 โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องไม่จำต้องวินิจฉัยว่าการให้ความยินยอมของโจทก์มิได้รับอนุญาตจากศาลเป็นการขัดต่อประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1574 หรือไม่ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน.

Share