คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1082/2501

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ทรัพย์ซึ่งเจ้ามรดกได้รับมาภายหลังจากบุตรเจ้ามรดกตายแล้ว ย่อมเป็นมรดกตกทอดมาถึงผู้สืบสันดานของบุตรเจ้ามรดกโดยการรับมรดกแทนที่กันได้

ย่อยาว

คดี ๒ สำนวนนี้พิจารณาพิพากษารวมกัน สำนวนแรกโจทก์ฟ้องขอแบ่งมรดกนางหมาจันทร์หรือจันทร์ โดยกล่าวว่านายสีดาบุตรคนหนึ่งในห้าคนของนางจันทร์เป็นสามีนางวัน โจทก์และเป็นบิดาโจทก์ผู้เยาว์ ขอแบ่งมรดกตามบัญชีท้ายฟ้อง ๑ ใน ๔ ส่วน จำเลยคดีนี้ให้การว่าฟ้องโจทก์เคลือบคลุม โจทก์ไม่มีสิทธิได้รับส่วนแบ่งมรดกเพราะไม่ได้จดทะเบียนสมรสกับนายสีดาและนายสีดาตายก่อนที่นางจันทร์ได้รับโอนทรัพย์ที่พิพาทจากนายเภาสามี
โจทก์อีกสำนวนหนึ่งฟ้องนางวันเป็นจำเลยว่าได้นำเจ้าพนักงานทำแผนที่บุกรุกเอาที่สวนที่นาซึ่งโจทก์ได้รับแบ่งมาจากนายเภานางจันทร์ ขอให้ห้ามมิให้เกี่ยวข้อง นางวันต่อสู้ว่าบิดามารดานายสีดาไม่เคยยกที่พิพาทให้ ทายาททุกคนต่างก็อาศัยทำกินร่วมมาด้วยกัน
สำนวนแรกนายชารีขอเข้าเป็นจำเลยร่วม
ศาลชั้นต้นเห็นว่านางวันโจทก์ไม่ได้จดทะเบียนสมรส จึงไม่ใช่ภรรยาและบุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย พิพากษาให้ยกฟ้องในสำนวนแรก และห้ามมิให้โจทก์เกี่ยวข้องในที่พิพาท
นางวันอุทธรณ์คัดค้านทั้งสองสำนวน ศาลอุทธรณ์เห็นว่าตามพฤติการณ์พอฟังได้ว่ามีการรับรองบุตรของนายสีดาแล้ว จึงมีสิทธิได้รับมรดกนางจันทร์แทนที่นายสึดา พิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นวินิจฉัยในเรื่องว่าทรัพย์ที่พิพาทเป็นมรดกเพียงไร
ศาลชั้นต้นฟังว่าทรัพย์ทั้งหมดที่โจทก์ฟ้องเป็นมรดกนางจันทร์ พิพากษาให้แบ่งทรัพย์นั้นแก่ทายาท และให้ยกฟ้องสำนวนหลัง
นางบุญ นางสมศรี นายชารี และนางสมศรีกับนายน้อยอุทธรณ์ทั้ง ๒ สำนวน
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
นางบุญ นางสมศรี นายชารี และนางสมศรีกับนายน้อย ฎีกาทั้ง ๒ สำนวน
ศาลฎีกาเห็นว่าที่ศาลล่างทั้งสองวินิจฉัยให้แบ่งทรัพย์มรดกชอบแล้ว ส่วนที่นางสมศรีคัดค้านว่านางจันทร์ได้ทรัพย์พิพาทมาภายหลังจากนายสีดาตายแล้ว นายสีดาย่อมไม่มีสิทธิได้รับมรดก ฉะนั้นบุตรของนายสีดาจึงไม่มีสิทธิรับมรดกแทนที่ นั้น เห็นว่าบุตรนายสีดาย่อมได้รับมรดกแทนที่นายสีดาได้ตาม ป.พ.พ.มาตรา ๑๖๓๙ พิพากษายืน

Share