คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1080/2508

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

(1) ขอแก้ฟ้องเกี่ยวกับจำนวนเงินของกลางที่จับได้เป็นการแก้ไขรายละเอียดเรื่องของกลางซึ่งต้องแถลงในฟ้อง
(2) ศาลชั้นต้นฟังข้อเท็จจริงว่าพยานเบิกความว่าวันเกิดเหตุเวลา 8 นาฬิกาได้รับแจ้งจากสายลับว่าที่บ้านจำเลยเล่นการพนัน แต่ศาลอุทธรณ์ฟังว่ามีสายลับมาแจ้งพยานเมื่อเวลา 4 โมงเช้า ถือว่าศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงจากพยานหลักฐานในสำนวน แต่กล่าวรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องเวลาซึ่งคลาดเคลื่อนกันเล็กน้อยเท่านั้น
(3) ฟ้องโจทก์กล่าวเพียงว่าจำเลยเป็นเจ้ามือรับแทงสลากกินรวบจากผู้เล่นทั่วไป ไม่กล่าวให้ชัดว่ารับแทงจากใคร ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
(4) จำเลยเป็นเจ้ามือรับเงินที่แทงจากผู้แทงไป ถือว่าได้ตกลงเล่นการพนันกันแล้ว
(5) ภายหลังที่โจทก์ถามติงพยานโจทก์แล้วโจทก์ขอให้พยานดูเอกสารที่ส่งศาลไว้แล้ว พยานดูแล้วว่าใช่ของกลางที่จับได้จากจำเลยตามที่เบิกความแล้วดังนี้ ไม่ใช่เรื่องถามติง เป็นแต่เพียงให้พยานยืนยันเอกสารที่พยานเบิกความถึงมาแล้ว

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเล่นการพนันสลากกินรวบ โดยจำเลยเป็นเจ้ามือ ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ.๒๔๗๘ มาตรา ๔,๖,๑๐,๑๒ แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ.๒๔๘๕ มาตรา ๓ แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๔) พ.ศ.๒๔๙๐ มาตรา ๓ แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๗) พ.ศ.๒๕๐๔ มาตรา ๓ กับขอให้ริบของกลาง และจ่ายสินบนนำจับแก่ผู้นำจับด้วย
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลแขวงพระนครเหนือสิบพยานโจทก์ไปบ้างแล้ว โจทก์ขอแก้ฟ้องเกี่ยวกับจำนวนเงินของกลางที่เจ้าพนักงานจับได้จากจำเลย จาก ๑๘๐ บาท เป็น ๒๘๐ บาท ศาลชั้นต้นเห็นว่าเป็นการแก้ไขรายละเอียดในฟ้อง จึงอนุญาตให้แก้ได้
ศาลชั้นต้นฟังว่า จำเลยกระทำผิดตามฟ้อง พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ.๒๔๗๘ มาตรา ๔,๖,๑๐,๑๒ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการพนัน (ฉบับที่ ๗) พ.ศ.๒๕๐๔ มาตรา ๓ ให้ลงโทษจำคุก ๓ เดือน และปรับ ๑,๐๐๐ บาท รอการลงโทษจำคุกไว้มีกำหนด ๒ ปี ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๕๖ ถ้าไม่ชำระค่าปรับ ให้กักขังแทนตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๙,๓๐ ริบของกลาง กับให้จำเลยจ่ายสินบนแก่ผู้นำจับกึ่งหนึ่งของค่าปรับ
จำเลยอุทธรณ์ว่า ที่ศาลชั้นต้นให้โจทก์แก้ฟ้องไม่ชอบ ทำให้จำเลยเสียเปรียบทางคดี
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า เป็นการขอแก้รายละเอียดซึ่งต้องแถลงในฟ้อง จำเลยมิได้หลงต่อสู้ในข้อที่ผิด จึงมิให้ถือว่าทำให้จำเลยเสียเปรียบตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา ๑๖๔ พิพากษายืน
จำเลยฎีกาหลายข้อ ทั้งได้ร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมฎีกาด้วย ศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายตามฎีกาจำเลยข้อ ๓(ก) และข้อ ๓(ข) เฉพาะข้อ (๑) (๓) (๔) และ (๕)
ศาลฎีกาเห็นว่า
ฎีกาข้อ ๓(ก) เห็นว่า โจทก์ขอแก้ฟ้องก่อนศาลชั้นต้นพิพากษา และข้อที่ขอแก้เป็นเพียงรายละเอียดเรื่องของกลางซึ่งต้องแถลงในฟ้อง พอสมควรเท่าที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา ๑๕๘ ทั้งจำเลยเองก็รับอยู่ว่าจำเลยมิได้หลงต่อสู้ในข้อที่ขอแก้นี้ จึงถือไม่ได้ว่าทำให้จำเลยเสียเปรียบ ศาลมีอำนาจที่จะอนุญาตให้แก้ฟ้องได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา ๑๖๓,๑๖๔
ฎีกาข้อ ๓(ข) (๑) จำเลยกล่าวว่าศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงคลาดเคลื่อนผิดไปจากพยานหลักฐานในสำนวน กล่าวคือ ศาลชั้นต้นฟังข้อเท็จจริงว่า ร้อยตำรวจตรีเอนกเบิกความว่าวันเกิดเหตุเวลา ๘ นาฬิกา ได้รับแจ้งจากสายลับว่าที่บ้านจำเลยเล่นการพนัน แต่ศาลอุทธรณ์ฟังว่า มีสายลับมาแจ้งแก่ร้อยตำรวจตรีเอนกเมื่อเวลา ๔ โมงเช้า ศาลฎีกาเห็นว่าศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงจากพยานหลักฐานในสำนวน แต่กล่าวรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องเวลาซึ่งคลาดเคลื่อนกันเล็กน้อยเท่านั้น ไม่เป็นสาระที่ถึงกับจะทำให้รูปคดีเปลี่ยนแปลงไป
ฎีกาข้อ ๓(ข) (๓) จำเลยฎีกาว่า ฟ้องโจทก์กล่าวเพียงว่าจำเลยเป็นเจ้ามือรับแทงสลากกินรวบจากผู้เล่นทั่วไป ไม่กล่าวให้ชัดว่ารับแทงจากใคร เป็นฟ้องเคลือบคลุม ศาลฎีกาเห็นว่าฟ้องของโจทก์ชัดเจนพอที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีแล้ว
ฎีกาข้อ ๓ (ข) (๔) จำเลยฎีกาว่า โจทก์ฟ้องว่าจำเลยรับแทงสลากกินรวบประจำงวดวันที่ ๒๕ มิถุนายน ๒๕๐๗ แต่ข้อเท็จจริงปรากฏว่าจำเลยถูกจับตั้งแต่ตอนเช้าของวันที่ ๒๕ มิถุนายน ๒๕๐๗ ซึ่งสลากกินแบ่งรัฐบาลงวดดังกล่าวยังไม่ออก ยังไม่รู้แพ้รู้ชนะกัน ฟังไม่ได้ว่าจำเลยเล่นการพนันในคดีนี้แล้ว ศาลฎีกาเห็นว่า จำเลยเป็นเจ้ามือรับเงินที่แทงจากผู้แทงไป ถือได้ว่าได้ตกลงเล่นการพนันกันแล้ว
ฎีกาข้อ ๓ (ข) (๕) ภายหลังที่โจทก์ถามติงร้อยตำรวจตรีเอนกพยานโจทก์แล้ว โจทก์ขอให้พยานดูเอกสารโพยของกลางที่ส่งศาลไว้แล้ว ตามหมาย จ.๑ พยานดูแล้วว่าใช่ของกลางที่จับได้จากจำเลยตามที่เบิกความแล้ว จำเลยยกขึ้นมาฎีกาว่า โจทก์ถามติง ไม่เกี่ยวกับคำเบิกความของพยานที่ตอบคำถามค้าน ไม่ชอบด้วยกระบวนพิจารณา ศาลฎีกาเห็นว่าไม่ใช่เรื่องถามติง เป็นแต่เพียงให้พยานยืนยันเอกสารที่พยานเบิกความถึงมาแล้ว
พิพากษายืน

Share