แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ที่จะเป็นนิรโทษกรรมตามมาตรา 449 นั้น ต้องเป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมายอันได้รับยกเว้นโทษ ดังนั้นจำเลยจะอ้างการป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ ซึ่งในทางอาญาจำเลยก็ยังต้องรับโทษ มาปัดความรับผิดไม่ใช้ค่าสินไหมทดแทนหาได้ไม่
ค่าสินไหมทดแทนควรจะให้มากน้อยเพียงใด ต้องพิจารณาว่าฝ่ายไหนเป็นผู้ก่อยิ่งหย่อนกว่ากันเป็นข้อสำคัญ
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยใช้ปืนยิงทำร้ายร่างกายโจทก์บาดเจ็บสาหัสแขนขวาเสียและขาซ้ายพิการเดินไม่ได้ รักษา 7-8 เดือนก็ไม่หายขอให้บังคับจำเลยใช้ค่ารักษาพยาบาล 3,000 บาท กับค่าสินไหมทดแทนเพื่อการละเมิด 7,000 บาท รวม 10,000 บาท
จำเลยต่อสู้ว่า จำเลยใช้อาวุธปืนก็เพื่อป้องกันตัว เพราะโจทก์ทำร้ายจำเลย โจทก์ไม่ได้เสียหายดังฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยใช้ค่ารักษาพยาบาล 2,000 บาทค่าสินไหมทดแทนเพราะโจทก์ถูกทำร้ายอีก 6,000 บาท รวมเป็นเงิน8,000 บาท
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ ให้ค่ารักษาพยาบาลเพียง 1,000 บาทค่าสินไหมทดแทน 3,000 บาท รวม 4,000 บาท
จำเลยฎีกาว่า โจทก์เป็นผู้ก่อเหตุก่อน จำเลยจึงได้ยิงป้องกันตัวแม้จะเป็นการป้องกันเกินกว่าเหุตจำเลยย่อมไม่ต้องรับผิด
โจทก์ฎีกาขอให้ใช้ค่าเสียหายเท่าที่ศาลชั้นต้นพิพากษา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 449มีว่า บุคคลใดเมื่อกระทำการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมายฯ หากก่อให้เกิดเสียหายแก่ผู้อื่นไซร้ ท่านว่าบุคคลนั้นหาต้องรับผิดใช้สินไหมทดแทนไม่ ตามนี้ ที่จะเป็นนิรโทษกรรมนั้นต้องเป็นกระทำการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมายอันได้รับยกเว้นโทษ แต่การกระทำของจำเลยแม้จะเป็นการป้องกันก็จริง แต่เกินสมควรแก่เหตุ ซึ่งในทางอาญาก็ยังต้องรับโทษ เช่นนี้จำเลยจะอาศัยมาตรา 449 มาปัดความรับผิดไม่ใช้ค่าสินไหมทดแทนหาได้ไม่
ส่วนการกำหนดค่าสินไหมในมูลละเมิดนั้น มาตรา 438 ให้ศาลวินิจฉัยตามควรแก่พฤติการณ์และความร้ายแรงแห่งละเมิด แต่ตามมาตรา 442 และ 223 ว่าค่าสินไหมทดแทนควรจะให้มากน้อยเพียงใดต้องพิเคราะห์ว่าฝ่ายไหนเป็นผู้ก่อยิ่งหย่อนกว่ากันเป็นข้อสำคัญเมื่อข้อเท็จจริงฟังเป็นยุติว่าโจทก์เป็นผู้ก่อ จำเลยจึงได้ชักปืนออกยิง หาใช่อยู่ดี ๆ จำเลยข่มเหงยิงโจทก์ไม่ ทั้งบาดแผลที่ถูกยิงโจทก์ก็ไม่ได้รักษาตัวตามแผนปัจจุบันทางวิชาแพทย์ จะถือว่าความทุกข์ทรมานของโจทก์เนิ่นนานเพราะการกระทำของจำเลยโดยตรงฟังไม่ถนัด การคำนวณค่าสินไหมทดแทนจึงย่อมลดลงตามพฤติการณ์ดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา 442 ที่ศาลอุทธรณ์คำนึงถึงพฤติการณ์ดังกล่าวแล้วมาประกอบในการพิจารณาให้จำเลยใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์รวม 4,000 บาท นับว่าเหมาะสมแก่รูปคดีแล้ว
พิพากษายืน