คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 108/2521

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

สัญญาเช่าซื้อคือสัญญาเช่าทรัพย์ประกอบกับคำมั่นว่าจะขาย ค่าเช่าซื้อก็คือค่าเช่าในการใช้ทรัพย์สินที่โจทก์นำออกให้เช่า แม้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 3 ลักษณะ 5 ว่าด้วยเช่าซื้อจะมิได้บัญญัติในเรื่องอายุความไว้โดยตรงก็ตาม โจทก์ก็จะต้องฟ้องเสียภายในกำหนดอายุความ 2 ปี ตามนัยแห่งประมวกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165(6) (อ้างฎีกาที่ 798/2508 และ 192/2512)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทำสัญญาเช่าซื้อรถแทรกเตอร์ไปจากโจทก์โดยชำระเงินในวันทำสัญญาเช่าซื้อให้โจทก์ไว้บางส่วน จำเลยที่ ๒ เป็นผู้ค้ำประกัน จำเลยที่ ๑ ผิดนัดไม่ชำระค่าเช่าซื้อ โจทก์ทวงถาม จำเลยทั้งสองก็ไม่ชำระ จึงฟ้องขอให้ศาลบังคับ
จำเลยทั้งสองให้การว่า สัญญาที่โจทก์ฟ้องไม่ใช่สัญญาเช่าซื้อ แต่เป็นสัญญาซื้อขาย จำเลยได้ชำระราคาให้แก่ผู้ขายด้วยเช็คแล้วโจทก์ต้องฟ้องคดีภายในอายุความ ๒ ปี แม้จะฟังว่าเป็นสัญญาเช่าซื้อก็เป็นเรื่องที่เจ้าของทรัพย์เอาทรัพย์ออกให้เช่าและให้คำมั่นว่าจะขายทรัพย์ให้ตกเป็นสิทธิแก่ผู้เช่า โดยเงื่อนไขที่ผู้เช่าได้ชำระเงินเป็นจำนวนเท่านั้นเท่านี้คราว ฉะนั้น ก่อนที่สัญญาจะสำเร็จเป็นการขายทั้งสองย่อมต่างผูกพันกันเพียงในฐานะผู้เช่าทรัพย์ มูลหนี้ตามสัญญาจึงเป็นมูลหนี้ที่ผูกพันจากการเช่าทรัพย์ โจทก์ต้องฟ้องคดีภายใน ๒ ปี แต่โจทก์ฟ้องคดีนี้เลยกำหนดแล้วจึงขาดอายุความ สัญญาตามฟ้องไม่ได้กำหนดอัตราดอกเบี้ยไว้ โจทก์เรียกดอกเบี้ยร้อยละ ๑๕ ไม่ได้ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า เอกสารท้ายฟ้องเป็นสัญญาเช่าซื้อซึ่งไม่มีกฎหมายบัญญัติเรื่องอายุความไว้เป็นอย่างอื่น จึงมีอายุความ ๑๐ ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งมาตรา ๑๖๔ คดีโจทก์ไม่ขาดอายุความ พิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินและดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า โจทก์เป็นนิติบุคคลผู้ประกอบการค้าในการให้เช่าสังหาริมทรัพย์ เช็คที่จำเลยที่ ๑ ชำระแก่โจทก์ในปี ๒๕๑๕ นั้น โจทก์นำไปขึ้นเงินไม่ได้ จึงนำคดีมาฟ้องเมื่อวันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๑๙ ที่โจทก์ฎีกาว่าฟ้องโจทก์ไม่ขาดอายุความนั้น เห็นว่าแม้เอกสารสำคัญจะมีข้อความว่าเป็นสัญญาเช่าซื้อ ก็เป็นสัญญาเช่าทรัพย์ประกอบกับคำมั่นว่าจะขาย ดังนัยฎีกาที่ ๗๙๘/๒๕๐๘ ทรัพย์ที่โจทก์ให้จำเลยเช่าไปคือรถแทรกเตอร์ เช็คที่โจทก์นำมาฟ้องแม้จะเรียกว่าเป็นค่าเช่าซื้อก็คือค่าเช่าในการใช้ทรัพย์สินที่โจทก์นำออกให้เช่านั่นเอง แม้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ ๓ ลักษณะ ๕ ว่าด้วยเช่าซื้อจะมิได้บัญญัติเรื่องอายุความไว้โดยตรงก็ตาม โจทก์ก็ต้องฟ้องเสียภายในกำหนดอายุความ ๒ ปี ตามนัยแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๖๕ (๖) และตามนัยฎีกาที่ ๑๙๒/๒๕๑๒ เมื่อโจทก์นำคดีมาฟ้องเกินกำหนด ๒ ปี คดีของโจทก์จึงขาดอายุความ
พิพากษายืน

Share