แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยยักยอกม้า แต่ฟ้องโจทก์มิได้ระบุหรือกำหนดวันเวลาเกี่ยวแก่การกระทำของจำเลยไว้พอที่จำเลยจะเข้าใจได้ โดยกล่าวไว้กำกวมว่า “จำเลยได้รับมอบหมายม้าจากนางจิบ ให้เป็นผู้นำม้าตัวนี้ไปเลี้ยงรักษาฯ” แล้ว “จำเลยนี้ได้บังอาจทุจริตเบียดบังยักยอกฯ” การมอบม้าได้มอบเมื่อไรในวันหรือหลังจากวันซื้อก็ไม่แน่นอน ยิ่งข้อเท็จจริงตอนกล่าวหาจำเลยทำการยักยอกด้วยแล้ว ไม่ได้ความเลยว่าวันเวลาใด แม้แต่จะเป็นการกะประมาณเพียงที่จะให้เข้าใจ จึงเป็นฟ้องที่ไม่สมบูรณ์ตาม ป.วิ.อาญามาตรา 158(5)
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า “เมื่อระหว่างวันที่ ๑ พฤศจิกายน จนถึงวันที่ ๓๐ พฤศจิกายน ๒๔๙๙ วันและเวลาใดไม่ปรากฏชัด จำเลยกับนางจิบผู้เสียหายได้ร่วมกันซื้อมาแข่งจากนายถาวร ๑ ตัว โดยออกทุนกันคนละครึ่ง และจำเลยได้รับมอบหมายจากนางจิบให้เป็นผู้นำไปเลี้ยงและจัดการนำเข้าแข่งแล้วจำเลยได้บังอาจยักยอกเอาม้าดังกล่าวไปขายรับเงินไว้เป็นส่วนตัว ครั้นในระหว่างเดือนธันวาคม ๒๔๙๙ วันเวลาใดไม่ปรากฏชัด นางจิบผู้เสียหายจึงทรายจากผู้มีชื่อว่าจำเลยได้เบียดบังเอาม้าไปขาย เหตุเกิดที่ตำบลหนองจะบก ตำบลในเมือง จังหวัดนครราชสีมา ขอให้ลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา ๓๑๔ ฯลฯ
จำเลยปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นเห็นว่าฟ้องโจทก์ไม่ระบุวันเวลาที่กระทำผิดโดยแจ้งชัด จึงเป็นฟ้องไม่สมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๕๘(๕) พิพากษาให้ยกฟ้องปล่อยจำเลย
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับคำพิพากษาศาลชั้นต้นว่า จำเลยมีความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา ๓๑๔ ลงโทษจำคุกจำเลย ๖ เดือน ฯลฯ
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า วันเวลาที่มอบม้าของกลางให้แก่จำเลยไปเลี้ยงรักษาฯ ตอลดทั้งวันเวลาที่กล่าวหาจำเลยทำการยักยอกก็ไม่ระบุหรือกำหนดไว้พอที่จำเลยจะเข้าใจได้ เพราะกล่าวไว้กำกวมหลังจากการซื้อมาเพียงแต่ว่า “และจำเลยได้รับมอบหมายจากนางจิบให้เป็นผู้นำม้าตัวนี้ไปเลี้ยงรักษาฯ” แล้ว “จำเลยนี้ได้บังอาจทุจริตเบียดบังยักยอกฯ” การมอบม้าได้มอบเมื่อไร ในวันหรือหลังจากวันซื้อก็ไม่แน่นอน ยิ่งในข้อ เท็จจริงตอนกล่าวหาจำเลยทำการยักยอกด้วยแล้ว ไม่ได้ความเลยว่าวันเวลาใด แม้แต่จะเป็นการกะประมาณเพียงที่จะให้เข้าใจ เห็นว่สำหรับวันเวลาเกี่ยวแต่การกระทำผิด ไม่มีข้อเท็จจริงพอสมควรที่จะให้จำเลยเข้าใจได้ จึงเป็นฟ้องที่ไม่สมบูรณ์ พิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์บังคดีตามศาลชั้นต้น.
