คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1078/2537

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

พินัยกรรมฉบับก่อนเจ้ามรดกยกที่ดินนาให้โจทก์ 10 ไร่ส่วนพินัยกรรมฉบับหลังเจ้ามรดกยกที่ดินนาให้โจทก์จำเลยและบุตรคนอื่น ๆ รวม 7 คน คนละ 3 ไร่ ส่วนที่เหลือยังเป็นส่วนของเจ้ามรดกอยู่ โดยมิได้กล่าวถึงที่ดินนา 10 ไร่ ที่เคยทำพินัยกรรมยกให้โจทก์ก่อนเลย ทั้งพินัยกรรมฉบับแรกตั้งให้โจทก์เป็นผู้จัดการมรดกแต่พินัยกรรมฉบับหลังตั้งให้จำเลยเป็นผู้จัดการมรดก พินัยกรรมทั้งสองฉบับในส่วนเกี่ยวกับทรัพย์มรดกและการตั้งผู้จัดการมรดกจึงขัดกัน และเจ้ามรดกผู้ทำพินัยกรรมมิได้แสดงเจตนาไว้ในพินัยกรรมเป็นอย่างอื่น ถือว่าพินัยกรรมฉบับก่อนเป็นอันเพิกถอนโดยพินัยกรรมฉบับหลังเฉพาะเกี่ยวกับการยกทรัพย์มรดกให้ทายาทและเกี่ยวกับการตั้งผู้จัดการมรดกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1697

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าเจ้ามรดกได้ทำพินัยกรรมเอกสารฝ่ายเมืองฉบับลงวันที่ 4 พฤศจิกายน 2517 ยกที่ดินเฉพาะส่วนของเจ้ามรดกให้แก่โจทก์จำนวน 10 ไร่ โจทก์ได้ไปขอรับมรดกก็ทราบว่าจำเลยได้ยื่นคำคัดค้านการขอรับมรดกของโจทก์และทราบว่าจำเลยได้เป็นผู้จัดการมรดกตามคำสั่งศาลตามพินัยกรรมเอกสารฝ่ายเมืองฉบับลงวันที่ 4 มีนาคม2528 และได้จัดการแบ่งที่ดินมรดกตามพินัยกรรมฉบับหลังนี้ ขอให้ศาลพิพากษาให้เพิกถอนการจดทะเบียนรับมรดกตามพินัยกรรมฉบับหลังเฉพาะส่วนที่เหลือจากการแบ่งให้ทายาท และพิพากษาว่าพินัยกรรมฉบับลงวันที่ 4 พฤศจิกายน 2517 มีผลบังคับได้ตามกฎหมายให้จำเลยจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินส่วนที่เหลือให้โจทก์ตามพินัยกรรมฉบับดังกล่าว
จำเลยให้การว่าพินัยกรรมฉบับหลังขัดกับพินัยกรรมฉบับลงวันที่4 พฤศจิกายน 2517 ที่โจทก์อ้าง จึงเป็นการเพิกถอนพินัยกรรมฉบับแรกของโจทก์ ขอให้ยกฟ้อง
ระหว่างการพิจารณาของศาลชั้นต้น โจทก์และจำเลยแถลงไม่ติดใจสืบพยาน ขอให้ศาลชี้ขาดข้อกฎหมายเบื้องต้น
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า พินัยกรรมฉบับหลังได้เพิกถอนพินัยกรรมฉบับก่อนที่โจทก์อ้างสิทธิแล้ว พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้จำเลยในฐานะผู้จัดการมรดกของนางสุกหรือสุข แสวงเจริญ ดำเนินการแบ่งที่ดินส่วนที่เป็นมรดกของนางสุกหรือสุข แสวงเจริญ ในโฉนดเลขที่ 6025 ตำบลไทรใหญ่อำเภอไทรน้อย (บางบัวทอง) จังหวัดนนทบุรี ส่วนที่เหลือจากการแบ่งให้ทายาท 7 คน ๆ ละ 3 ไร่ ตามพินัยกรรมเอกสารฝ่ายเมืองฉบับลงวันที่ 4 มีนาคม 2528 ให้แก่โจทก์ในฐานะผู้รับมรดกตามพินัยกรรมเอกสารฝ่ายเมืองฉบับลงวันที่ 4 พฤศจิกายน 2517 จำนวนไม่เกิน 10 ไร่ หากจำเลยไม่ไปดำเนินการก็ให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนา คำขออื่นให้ยก
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงฟังยุติได้ว่า นางสุกหรือสุขแสวงเจริญ เจ้ามรดกได้ทำพินัยกรรมเอกสารฝ่ายเมืองฉบับลงวันที่4 พฤศจิกายน 2517 ยกที่ดินนา 10 ไร่ จากจำนวน 30 ไร่ 2 งาน96 ตารางวา ตามโฉนดที่ดินเลขที่ 6025 ตำบลไทรใหญ่ อำเภอไทรน้อย (บางบัวทอง) จังหวัดนนทบุรี ให้โจทก์และตั้งให้โจทก์เป็นผู้จัดการมรดก ต่อมาเจ้ามรดกได้ทำพินัยกรรมเอกสารฝ่ายเมืองฉบับลงวันที่ 4 มีนาคม 2528 ยกที่ดินตามโฉนดที่ดินดังกล่าวให้โจทก์จำเลยและบุตรคนอื่น ๆ รวม 7 คน คนละ 3 ไร่ ส่วนที่ดินที่เหลือยังเป็นส่วนของเจ้ามรดกและตั้งให้จำเลยเป็นผู้จัดการมรดก ปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยมีว่าพินัยกรรมฉบับก่อนกับพินัยกรรมฉบับหลังขัดกันหรือไม่ เห็นว่า พินัยกรรมฉบับก่อนเจ้ามรดกยกที่ดินนาให้โจทก์ 10 ไร่ ส่วนพินัยกรรมฉบับหลังเจ้ามรดกยกที่ดินนาให้โจทก์จำเลยและบุตรคนอื่น ๆ รวม 7 คน คนละ 3 ไร่ ส่วนที่เหลือยังเป็นส่วนของเจ้ามรดกอยู่ โดยมิได้กล่าวถึงที่ดินนา 10 ไร่ที่เคยทำพินัยกรรมยกให้โจทก์ก่อนเลย ทั้งพินัยกรรมฉบับแรกตั้งให้โจทก์เป็นผู้จัดการมรดก แต่พินัยกรรมฉบับหลังตั้งให้จำเลยเป็นผู้จัดการมรดกพินัยกรรมทั้งสองฉบับในส่วนเกี่ยวกับทรัพย์มรดกและการตั้งผู้จัดการมรดกจึงขัดกัน และเจ้ามรดกผู้ทำพินัยกรรมมิได้แสดงเจตนาไว้ในพินัยกรรมเป็นอย่างอื่น ถือว่าพินัยกรรมฉบับก่อนเป็นอันเพิกถอนโดยพินัยกรรมฉบับหลังเฉพาะเกี่ยวกับการยกทรัพย์มรดกให้ทายาทและเกี่ยวกับการตั้งผู้จัดการมรดกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1697 ที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าพินัยกรรมฉบับหลังขัดกับพินัยกรรมฉบับก่อนอยู่เพียง 1 งาน 4 ตารางวา และโจทก์ยังมีสิทธิได้รับที่ดินมรดกตามพินัยกรรมฉบับก่อนบางส่วนนั้นไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา ฎีกาของจำเลยฟังขึ้น”
พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์ แต่ไม่ตัดสิทธิโจทก์ในฐานะทายาทโดยธรรมของเจ้ามรดกที่จะฟ้องขอแบ่งที่ดินมรดกที่เหลือจากการแบ่งตามพินัยกรรมฉบับหลังภายใต้บทบัญญัติของกฎหมายว่าด้วยอายุความ

Share