คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1077/2504

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ข้อความที่จำเลยโฆษณาออกอากาศทางวิทยุและพิมพ์แถลงการณ์ออกแจกจ่ายจะเป็นหมิ่นประมาทโจทก์ต่อเมื่อเป็นการใส่ความหากข้อความนั้นเป็นการชี้แจงแก้ข่าวหรือบทความซึ่งโจทก์ตำหนิจำเลยก่อนอย่างรุนแรง และทำโดยสุจริตเพื่อความชอบธรรม ป้องกันตนตามคลองธรรมโดยสุภาพแล้ว ก็ได้รับยกเว้นโทษ
เมื่อมีเหตุตามกฎหมายที่จำเลยไม่ควรต้องรับโทษ ศาลก็พิพากษายกฟ้อง
พนักงานอัยการมีอำนาจเข้าเป็นทนายแก้ต่างนายกเทศมนตรีซึ่งถูกฟ้องเป็นจำเลยในเรื่องการที่ได้กระทำไปตามหน้าที่ได้ แม้จะเป็นการแก้ต่างจำเลยในชั้นไต่สวนมูลฟ้องของศาลแขวงเพราะกฎหมายมิได้กำหนดอำนาจหน้าที่ผู้ว่าคดีให้เป็นทนายแก้ต่างจำเลยดังเช่นที่กล่าวไว้ชัดในพระราชบัญญัติพนักงานอัยการ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเป็นนายกเทศมนตรีเทศบาลนครเชียงใหม่ได้บังอาจหมิ่นประมาทโจทก์โดยโฆษณาออกอากาศทางวิทยุและพิมพ์แถลงการณ์ออกแจกจ่ายเป็นการประจานโจทก์ ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326, 328, 332

ศาลแขวงเชียงใหม่ไต่สวนมูลฟ้องแล้วเห็นว่า หนังสือพิมพ์ของโจทก์ลงบทความโจมตีจำเลยด้วยถ้อยคำรุนแรง จำเลยจึงต้องแก้ข่าวหรือบทความนั้นทางวิทยุและคำแถลงการณ์ โดยมีสิทธิอันชอบธรรมเป็นการป้องกันตน จำเลยไม่มีผิด พิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์ว่า พนักงานอัยการเข้าแก้ต่างจำเลยไม่ได้ ซึ่งโจทก์ได้แถลงคัดค้านไว้แล้ว และว่าศาลจะวินิจฉัยถึงข้อแก้ตัวของจำเลยไม่ได้ เพราะเป็นชั้นไต่สวนมูลฟ้องขอให้ได้รับประทับฟ้องโจทก์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่าหนังสือพิมพ์ของโจทก์ลงบทความตำหนิจำเลยก่อนอย่างรุนแรง จำเลยจึงจำเป็นต้องชี้แจงแก้ข่าวนั้นโดยสุจริต เพื่อความชอบธรรมและป้องกันตนตามคลองธรรม อันเป็นเหตุได้รับยกเว้นโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 329(1) เมื่อมีบทกฎหมายบัญญัติยกเว้นไม่เอาโทษแก่การกระทำของจำเลยตามฟ้องโจทก์แล้ว ศาลย่อมหยิบยกขึ้นวินิจฉัยได้เอง และข้อที่ศาลจะหยิบยกขึ้นมาวินิจฉัยก็เป็นข้อเท็จจริงที่ได้ความตามท้องสำนวน หาใช่วินิจฉัยไม่

ส่วนฎีกาโจทก์ที่ว่า พนักงานอัยการไม่มีอำนาจเข้าว่าคดีแก้ต่างจำเลยนั้น ตามพระราชบัญญัติพนักงานอัยการ พ.ศ. 2498 มาตรา 11(3)ก็ให้อำนาจพนักงานอัยการเป็นทนายแก้ต่างจำเลยได้ ข้อที่โจทก์ฎีกาว่า ในศาลแขวงย่อมมีผู้ว่าคดีเป็นโจทก์อยู่แล้วจำต้องให้ผู้ว่าคดีแก้ต่างจำเลยนั้น ศาลฎีกาเห็นว่า กฎหมายมิได้กำหนดอำนาจหน้าที่ผู้ว่าคดีให้เป็นทนายแก้ต่างจำเลยดังเช่นที่กล่าวชัดในพระราชบัญญัติพนักงานอัยการ ฎีกาโจทก์ข้อนี้ฟังไม่ขึ้นอีกเช่นกัน

พิพากษายืน

Share