คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1077/2497

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์และจำเลยเป็นเจ้าของข้าวร่วมกัน จำเลยได้แยกไปอยู่ที่อื่น แต่ข้าวยังอยู่ในความครอบครองของโจทก์ จำเลยได้พาพวกมาขนข้าวไปโดยพลการ โดยโจทก์ไม่ยินยอมดังนี้จำเลยต้องรับผิดและต้องคืนข้าวส่วนที่เกินให้โจทก์ไป
ผู้รับจ้างรู้ว่า ผู้จ้างไม่มีสิทธิในทรัพย์แต่ยังยอมรับจ้างไปขนทรัพย์นั้นมา ต้องรับผิดฐานละเมิดร่วมรับผู้จ้างด้วย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยสมคบกันตวงข้าวเปลือกของโจทก์ไปรวม 7เกวียนเศษ ราคา 6,300 บาท ทั้งนี้เป็นการกระทำโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายขอให้จำเลยคืนข้าวเปลือกหรือใช้ราคา

จำเลยที่ 9 ให้การว่าจำเลยแบ่งเอาข้าวเปลือกของจำเลยกับมารดา ไปเพียง 400 ถังและข้าวเหนียว 5 ถัง จำเลยนอกนั้นปฏิเสธความรับผิด

ศาลชั้นต้นเห็นว่าข้าวเปลือกรายนี้ จำเลยที่ 9 มีส่วนเป็นเจ้าของร่วมด้วย มีสิทธิขอแบ่งจำเลยที่ 9 เอาไปเพียง 4 เกวียนอันเป็นจำนวนพอสมควร จำเลยที่ 1-2 เป็นผู้ไปควบคุมตามหน้าที่ของทางการจำเลยที่ 3-5-6-7-8 เป็นผู้ที่จำเลยที่ 9 จ้างไปช่วยตวง จำเลยที่ 4 ไม่ได้เกี่ยวข้องจึงพิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่าแม้จำเลยที่ 9 จะเป็นเจ้าของข้าวด้วยและมีสิทธิขอแบ่งได้ก็ดี แต่เวลานั้นจำเลยที่ 9 แยกไปอยู่ที่อื่นแล้ว และข้าวเหล่านั้นอยู่ในความครอบครองของโจทก์ จำเลยที่ 9 จะมายื้อแย่งเอาโดยพลการ โดยโจทก์ไม่ยินยอมไม่ได้ จำเลยที่ 9 เอาไปเกินส่วนของตนไป 1 เกวียน 33 ถัง และฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยที่ 3-5-6-7-8 ได้รู้แล้วว่าข้าวเป็นของโจทก์แล้วยังขืนล่วงละเมิดกับจำเลยที่ 9 จำเลยเหล่านี้จึงต้องรับผิดร่วมกับจำเลยที่ 9 ด้วย

พิพากษาแก้ให้จำเลยที่ 3-5-6-7-8-9 คืนข้าวเปลือกให้โจทก์1 เกวียน 33 ถัง หรือใช้ราคาเกวียนละ 900 บาท นอกจากนี้คงยืน

Share