คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1076/2527

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ที่ 2 เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการห้างฯ โจทก์ที่ 1 โจทก์ที่ 3 และจำเลยที่ 4 เป็นหุ้นส่วนในระหว่างที่จำเลยร่วมกันดำเนินกิจการของโจทก์ที่1 แทนโจทก์ที่ 2 ได้จำหน่ายรถไถและอุปกรณ์รถไถของโจทก์ที่ 1 แล้วไม่นำเงินส่งให้โจทก์ที่1 กับเอาตราและเอกสารของโจทก์ที่ 1 ไปด้วย ขอให้จำเลยชำระเงินค่าสินค้าที่จำหน่ายไป กับให้ส่งมอบตราและเอกสารแก่โจทก์จำเลยที่ 4 ให้การและฟ้องแย้งว่า โจทก์ที่ 2 ในฐานะหุ้นส่วนผู้จัดการและลูกจ้างของโจทก์ที่ 1 ได้รับรถไถของจำเลยที่ 4 ไปจำหน่ายแล้วไม่นำเงินส่งมอบแก่โจทก์ที่ 1 และจำเลยที่ 4 ตามข้อตกลง ทั้งยังได้นำเงินของโจทก์ที่ 1 ไปใช้จ่ายเป็นส่วนตัวอีกด้วยขอให้โจทก์ที่ 2 ชำระเงินแก่โจทก์ที่ 1 และจำเลยที่ 4 กับให้โจทก์ที่ 3 ซึ่งเข้ามาช่วยโจทก์ที่ 2 ดำเนินการห้างฯ โจทก์ที่ 1 ร่วมรับผิดด้วย และให้โจทก์ที่ 2 ไปดำเนินการจดทะเบียนเลิกห้างฯ โจทก์ที่ 1 และชำระบัญชีดังนี้ ฟ้องแย้งในเรื่องที่เกี่ยวกับรถไถเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับคำฟ้องเดิม ส่วนฟ้องแย้งที่อ้างว่าโจทก์ที่ 2 และที่ 3 นำเงินของโจทก์ที่ 1 ไปใช้จ่ายเป็นส่วนตัวกับให้โจทก์ที่ 2 ไปดำเนินการจดทะเบียนเลิกห้างฯ โจทก์ที่ 1 และชำระบัญชีนั้น เป็นเรื่องอื่นไม่เกี่ยวกับคำฟ้องเดิมต้องห้ามมิให้ฟ้องแย้งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 177 วรรคสาม

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ที่ 1 เป็นนิติบุคคล โจทก์ที่ 2 เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการโจทก์ที่ 3 และจำเลยที่ 4 เป็นผู้ถือหุ้น โจทก์ที่ 1 สั่งซื้อรถไถมา 87 คัน และจำหน่ายไปแล้วรวม 28 คัน ต่อมาโจทก์ที่ 2 ประสบอุบัติเหตุต้องพักรักษาตัวระหว่างนั้นจำเลยได้ร่วมกันดำเนินกิจการของโจทก์ที่ 1 แทนโจทก์ที่ 2 โดยจำหน่ายรถไถไป 32 คัน และอุปกรณ์รถไถอีกจำนวนหนึ่ง ส่วนรถไถที่เหลืออีก 27 คัน จำเลยก็ได้จำหน่ายไปแล้วแต่มิได้ลงบัญชีของโจทก์ที่ 1 นอกจากนี้จำเลยยังได้เอาตราเอกสารและสมุดบัญชีของโจทก์ที่ 1 ไปด้วย ขอบังคับให้จำเลยทั้งสี่ชำระเงินค่ารถไถและอุปกรณ์ดังกล่าวพร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์ และให้ส่งมอบเอกสาร สมุดบัญชี และตราของโจทก์ที่ 1 แก่โจทก์ด้วย

จำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 3 ให้การปฏิเสธความรับผิด

จำเลยที่ 4 ให้การและฟ้องแย้งว่า จำเลยที่ 4 ไม่เคยร่วมจำหน่ายรถไถและอุปกรณ์รถไถของโจทก์ที่ 1 โจทก์ที่ 2 และที่ 3 ดำเนินการเป็นที่เสียหายแก่โจทก์ที่ 1 กิจการของโจทก์ที่ 1 ไม่สามารถดำเนินต่อไปได้ จึงหยุดกิจการตั้งแต่ปี พ.ศ. 2523 แต่โจทก์ที่ 2 ก็ไม่ยอมไปจดทะเบียนเลิกห้างฯ โจทก์ที่ 1 เอกสารสมุดบัญชี และตรายางของโจทก์ที่ 1 คงอยู่ในความครอบครองของโจทก์ ขณะที่โจทก์ที่ 2 ที่ 3 และจำเลยที่ 4 เข้าหุ้นกันจดทะเบียนห้างฯ โจทก์ที่ 1 มีข้อตกลงกันว่า โจทก์ที่ 2 มีหน้าที่จำหน่ายรถไถที่จำเลยที่ 4 เป็นผู้สั่งซื้อ เมื่อจำหน่ายได้แล้วให้นำเงินส่งแก่จำเลยที่ 4 รถไถที่จำเลยที่ 4 สั่งซื้อมา โจทก์ที่ 1 จำหน่ายหมดไปแล้วแต่โจทก์ที่ 2 และที่ 3 ยังส่งมอบเงินให้โจทก์ที่ 1 และจำเลยที่ 4 ไม่ครบถ้วนทั้งยังได้นำเงินของโจทก์ที่ 1 ไปใช้จ่ายเป็นส่วนตัวอีกด้วย ขอให้ยกฟ้องโจทก์ ให้โจทก์ที่ 2 และที่ 3 ชำระเงินแก่โจทก์ที่ 1 และจำเลยที่ 4 พร้อมดอกเบี้ยกับให้จำเลยที่ 2 ดำเนินการจดทะเบียนเลิกห้างฯ โจทก์ที่ 1 และชำระบัญชีหากไม่ปฏิบัติตามขอให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนา

ศาลชั้นต้นสั่งรับคำให้การจำเลยที่ 4 แต่ไม่รับฟ้องแย้งโดยให้เหตุผลว่าไม่เกี่ยวกับคำฟ้องเดิม

จำเลยที่ 4 อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยที่ 4 ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับการจำหน่ายรถไถ จำเลยที่ 4ฟ้องแย้งอ้างว่ารถไถที่จำหน่ายไปเป็นของจำเลยที่ 4 มิใช่เป็นของโจทก์ที่ 1 และจำเลยที่ 4 มิใช่เป็นผู้จำหน่ายรถไถ แต่โจทก์ที่ 2 เป็นผู้จำหน่าย ขอให้โจทก์ที่ 2 และที่ 3 ชำระเงินค่ารถไถที่จำหน่ายไปแก่โจทก์ที่ 1 และจำเลยที่ 4ฟ้องแย้งของจำเลยที่ 4 ในเรื่องที่เกี่ยวกับรถไถดังกล่าวจึงเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับคำฟ้องเดิมส่วนฟ้องแย้งที่อ้างว่าโจทก์ที่ 2 และที่ 3 นำเงินของโจทก์ที่ 1ไปใช้จ่ายเป็นส่วนตัว กับให้โจทก์ที่ 2 ไปดำเนินการจดทะเบียนเลิกห้างฯ โจทก์ที่ 1 และชำระบัญชีนั้น เป็นเรื่องอื่นไม่เกี่ยวกับคำฟ้องเดิม ต้องห้ามมิให้ฟ้องแย้งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 177วรรคสาม

พิพากษาแก้ ให้รับฟ้องแย้งของจำเลยที่ 4 เฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับการจำหน่ายรถไถไว้พิจารณาต่อไป

Share