คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1075/2541

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยผิดสัญญาเช่า สัญญาเช่าเลิกกันดังที่ระบุไว้ในสัญญา จำเลยจึงไม่มีสิทธิที่อยู่ในห้องเช่าพิพาทอีกต่อไป ดังนี้การที่จำเลยฟ้องแย้งว่า โจทก์จงใจหรือกลั่นแกล้งจำเลยให้ได้รับความเดือดร้อน โดยไม่ให้ความร่วมมือเซ็นเอกสารต่างๆที่จำเลยต้องนำไปใช้ในการจดทะเบียนประกอบการภาษีมูลค่าเพิ่ม และไม่ยินยอมมอบตราประทับสำหรับจอดรถฟรีของลูกค้าให้แก่จำเลย ทำให้ได้รับความเสียหาย อันเป็นเรื่องละเมิด ทั้งข้ออ้างของจำเลยมิได้มีข้อกำหนดให้โจทก์ต้องปฏิบัติตามสัญญาเช่าประการใด จึงไม่เป็นฟ้องแย้งที่เกี่ยวกับคำฟ้องเดิม

ย่อยาว

คดีนี้สืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยออกจากห้องเช่าพิพาทโดยอ้างว่าจำเลยผิดสัญญาเช่า กับเรียกค่าเช่าที่ค้าง 180,000 บาท และค่าเสียหายอีกเดือนละ 45,000 บาท จำเลยให้การและฟ้องแย้งว่า โจทก์ไม่ใช่เจ้าของหรือผู้ถือกรรมสิทธิ์ห้องเช่าพิพาท จำเลยมิได้ประพฤติผิดสัญญาเช่า แต่โจทก์เป็นฝ่ายผิดสัญญาเช่าและทำละเมิดต่อจำเลยโดยโจทก์ไม่ให้ความร่วมมือให้สมประโยชน์อันพึงมีในฐานะผู้ให้เช่าต่อผู้เช่า ไม่ยอมเซ็นรับมอบเอกสารต่างๆที่จำเลยต้องนำไปใช้ในการประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มต่อกรรมสรรพากร ทำให้จำเลยไม่สามารถประกอบกิจการค้าที่ต้องออกใบกำกับภาษีให้แก่ลูกค้า เป็นเหตุให้จำเลยขาดรายได้ ทั้งโจทก์ไม่ยอมมอบตราประทับสำหรับจอดรถฟรีของลูกให้แก่จำเลย เป็นเหตุให้จำเลยต้องจ่ายเงินค่าส่วนกลางของอาคาร จำเลยจึงมีสิทธิระงับการจ่ายค่าเช่าไว้ชั่วคราวได้ ขอให้บังคับโจทก์ชดใช้ค่าเสียหายเดือนละ 100,000 บาท เป็นเวลา 8 เดือน เป็นเงิน 800,000 บาท และให้โจทก์ยินยอมเซ็นเอกสารที่ต้องใช้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มให้แก่จำเลย หากไม่ยินยอมให้โจทก์ชดใช้ค่าเสียหายในอัตราเดือนละ 100,000 บาท นับแต่ถัดจากวันฟ้องแย้งเป็นต้นไปจนกว่าจำเลยจะจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม
ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฟ้องแย้ง
จำเลยอุทธรณ์ขอให้รับฟ้องแย้ง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์เป็นพับ
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ปัญหาตามฎีกาของจำเลยมีว่า ฟ้องแย้งของจำเลยเกี่ยวกับฟ้องเดิมหรือไม่ เห็นว่า ฟ้องแย้งของจำเลยที่เรียกค่าเสียหายจากโจทก์นั้นเป็นเรื่องที่จำเลยกล่าวอ้างว่าโจทก์จงใจหรือกลั่นแกล้งจำเลยให้ได้รับความเดือนร้อนโดยโจทก์ไม่ให้ความร่วมมือในการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มของจำเลย และไม่ยินยอมมอบตราประทับสำหรับจอดรถฟรีของลูกค้าให้แก่จำเลยอันเป็นเรื่องละเมิด ไม่เกี่ยวกับคำฟ้องเดิมซึ่งเป็นเรื่องผิดสัญญา ซึ่งโจทก์กล่าวอ้างว่า จำเลยไม่ชำระค่าเช่าให้แก่โจทก์ สัญญาเช่าย่อมเลิกกันดังที่ระบุไว้ในสัญญา จำเลยจึงไม่มีสิทธิที่อยู่ในห้องเช่าพิพาทอีกต่อไป ทั้งข้ออ้างของจำเลยดังกล่าวก็หาได้มีข้อกำหนดให้โจทก์ต้องปฏิบัติตามสัญญาเช่าแต่อย่างใดไม่ เป็นเรื่องที่จำเลยจะต้องไปดำเนินการฟ้องร้องโจทก์เป็นอีกคดีหนึ่งต่างหาก ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาไม่รับฟ้องแย้งของจำเลยนั้นชอบแล้ว
พิพากษายืน ให้จำเลยใช้ค่าทนายความชั้นฎีกาแทนโจทก์ 1,000 บาท

Share