คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1075/2511

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยซื้อเชื่อวัสดุเครื่องก่อสร้างจากผู้เสียหาย และสั่งจ่ายเช็คให้ยึดถือไว้เป็นประกันค่าวัสดุก่อสร้างโดยตกลงว่าจะต้องนำเช็คมาแลกเงินสดเสียก่อน การที่ผู้เสียหายนำเช็คไปขึ้นเงินธนาคารและแจ้งความจำเลยโดยมิได้นำเช็คไปแลกเงินจากจำเลยตามข้อตกลง จึงเป็นการว่ากล่าวเอากับเช็คของจำเลยโดยที่ตนยังไม่มีอำนาจจะทำได้ การกระทำของจำเลยไม่เป็นผิดพระราชบัญญัติ ฯลฯ การใช้เช็ค พ.ศ. 2497

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสองร่วมกันออกเช็คสั่งจ่ายให้นายอ้วงคุมผู้เสียหาย ครั้นถึงกำหนด ผู้เสียหายไปขึ้นเงิน แต่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน ทั้งนี้โดยจำเลยร่วมกันออกเช็คด้วยเจตนาจะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83

จำเลยให้การปฏิเสธฟ้องว่า บริษัทจำเลยได้ทำสัญญารับเหมาก่อสร้างตึกแถวให้เจ้าของที่ดินโดยเมื่อสร้างเสร็จและเซ้งเรียกค่าก่อสร้างแล้วยกให้เป็นของเจ้าของและได้ทำความตกลงกับผู้เสียหายซึ่งเป็นผู้ขายเครื่องวัสดุก่อสร้างว่าผู้เสียหายจะเป็นผู้จัดซื้อวัสดุ แต่ให้บริษัทจำเลยออกเช็คเป็นประกันราคาไว้ เมื่อเซ้งได้เงินค่าก่อสร้างแล้วให้ผู้เสียหายนำเช็คมาแลกเอาเงินไปครั้นเมื่อก่อสร้างเสร็จผู้เสียหายเอาตึกเซ้งให้ผู้มีชื่อได้เงินรวม 129,000 บาท แล้วไม่ส่งมอบเงิน ทั้งไม่ยอมคืนเช็คให้บริษัทจำเลยจำเลยได้ร้องทุกข์ต่อเจ้าพนักงานไว้แล้วด้วย

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497มาตรา 3 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 ให้ปรับจำเลยคนละหนึ่งหมื่นบาทไม่ชำระจัดการตามมาตรา 29, 30

จำเลยทั้งสองอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับโดยให้ยกฟ้องโจทก์

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยกับคำวินิจฉัยศาลอุทธรณ์ว่าจำเลยออกเช็คสั่งจ่ายให้ผู้เสียหายยึดถือไว้เป็นประกันค่าวัสดุก่อสร้างที่ผู้เสียหายขายให้จำเลยที่ 1 และมีข้อตกลงว่าผู้เสียหายจะต้องนำมาแลกเงินสดจากจำเลยก่อน การที่ผู้เสียหายนำเช็คไปขึ้นเงินธนาคารโดยไม่ปรากฏว่าได้นำไปแลกเงินจากจำเลยก่อนและจำเลยไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงอย่างไร จึงเป็นการว่ากล่าวเอากับเช็คของจำเลยโดยที่ตนยังไม่มีอำนาจที่จะทำได้ การกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พิพากษายืน

Share