แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การที่จำเลยนั่งอยู่ในรถยนต์ เจ้าพนักงานไปเรียกจำเลยให้ลงจากรถยนต์เพื่อจับกุมในข้อหาสมคบกับพวกลักทรัพย์หรือรับของโจร จำเลยจึงพูดว่า”เป็นเจ้าพนักงานสิเอาอำนาจหยังมาไซ่รุนแรงเกินไปแบบนี้” เป็นคำกล่าวประท้วงการกระทำของเจ้าพนักงานโดยมีเหตุผลไม่เป็นการดูหมิ่นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา136
ฟ้องว่าจำเลยกล่าวดูหมิ่นเจ้าพนักงานว่า “เป็นเจ้าพนักงานสิเอาอำนาจหยังมาไซ่รุนแรงเกินไปแบบนี้” ซึ่งมีความหมายว่าเจ้าพนักงานใช้อำนาจรุนแรงต่อจำเลยนั้น โจทก์จะนำสืบความหมายนอกเหนือไปจากที่กล่าวในฟ้องไม่ได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า เจ้าพนักงานตำรวจแจ้งข้อหาและสั่งให้จำเลยลงจากรถยนต์เพื่อจับกุมในข้อหาว่าสมคบกันกับพวกลักทรัพย์หรือรับของโจรอันเป็นการกระทำตามหน้าที่ จำเลยกล่าววาจาดูหมิ่นเจ้าพนักงานตำรวจว่า “เป็นเจ้าพนักงานสิเอาอำนาจหยังมาไซ่รุนแรงเกินไปแบบนี้” มีความหมายว่า เจ้าพนักงานใช้อำนาจรุนแรงต่อจำเลย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 136
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นเห็นว่า คดีพอวินิจฉัยได้ ให้งดสืบพยานโจทก์ และเห็นว่า เพียงแต่จำเลยกล่าวว่า เอาอำนาจอะไรมาใช้รุนแรงเกินไปยังไม่ถึงขึ้นดูหมิ่นตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 136 พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ขอให้สั่งศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาสืบพยานโจทก์ต่อไป หรือพิพากษาลงโทษจำเลยตามฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกาขอให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปแล้วพิพากษาใหม่
ศาลฎีกาตรวจสำนวนและประชุมปรึกษาแล้วเห็นว่า ฟ้องโจทก์ยืนยันว่าถ้อยคำที่จำเลยกล่าวมีความหมายว่า เจ้าพนักงานใช้อำนาจรุนแรงต่อจำเลย ฉะนั้น โจทก์จะนำสืบพยานอย่างไร ก็คงสืบได้เท่าที่โจทก์ฟ้องกล่าวหาเท่านั้น โจทก์จะนำสืบให้นอกเหนือไปจากฟ้องไม่ได้จึงไม่ต้องสืบพยาน จำเลยนั่งอยู่ในรถยนต์ เจ้าพนักงานไปเรียกจำเลยลงจากรถยนต์ จำเลยจึงได้กล่าวโดยมีความหมายเพียงประท้วงการกระทำของเจ้าพนักงานโดยมีเหตุผล ไม่เป็นการกล่าวดูหมิ่นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 136
พิพากษายืน ยกฎีกาโจทก์