แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เมื่อการเช่านาได้ตกลงเลิกกันก่อนใช้ พระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา 2493 ฉะนั้นจะนำ พระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา2493 มาใช้บังคับหาได้ไม่
ย่อยาว
ได้ความว่า จำเลยทั้งสองเป็นสามีภริยากัน ได้ตกลงให้โจทก์ทำนา20 ไร่ คิดค่าเช่าเป็นข้าวเปลือก ถึงปลายปีเก็บเกี่ยวแล้วนายเต็กจำเลยได้เก็บข้าวไปจากโจทก์ 120 ถัง รุ่งขึ้นปี 2494 โจทก์เข้าไถทำนาตามฟ้องจำเลยกลับแย่งหว่านทับ เรื่องถึงอำเภอในที่สุดตกลงกันว่าโจทก์ยอมเลิกการเช่านาปี 2494 จำเลยยอมยกค่าเช่า 40 ถังที่ยังค้างอยู่ให้โจทก์ ภายหลังโจทก์กลับจะเข้าทำนาปี 2494 อีก จำเลยไม่ยอมอำเภอทำการวินิจฉัยว่าโจทก์ยังมีสิทธิทำนาในปี 2494 ตามพระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา 2493 มาตรา 9(1) นางเฮียงจึงฟ้องโจทก์เป็นจำเลยต่อศาลแขวงพระนครเหนือ แต่ในที่สุดได้ถอนฟ้องไป เพราะโจทก์ยอมรับจะไม่เกี่ยวข้องกับนานี้อีก ต่อมานายตาเล็บได้เป็นโจทก์ฟ้องจำเลยเป็นคดีเรื่องนี้ เรียกค่าเสียหายในการที่ไม่ได้ทำนาปี 2494 เป็นเงิน 6,000 บาท
จำเลยให้การต่อสู้ว่า โจทก์ได้ยอมเลิกการเช่า เพราะจำเลยได้ยกค่าเช่าที่ค้างให้แล้ว
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง แต่ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ ให้จำเลยใช้ค่าเสียหายให้โจทก์ 3,000 บาท
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ในปี 2493 ได้ตกลงกันเช่าไร่ละ 8 ถัง รวมเป็น 160 ถัง โจทก์ชำระแล้ว 120 ถัง อีก 40 ถังจำเลยยกให้โจทก์แลกเปลี่ยนกับการที่โจทก์ยอมเลิกเกี่ยวข้องกับการเช่านานี้ต่อไปเมื่อโจทก์ยอมเลิกการเช่าก่อนหน้าที่มีพระราชกฤษฎีกาให้ใช้พระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา 2493 การเช่ารายนี้จึงไม่อยู่ในความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา 2493 แต่อย่างใดจำเลยจึงไม่มีความผูกพันที่จะต้องให้โจทก์เช่านาต่อไปอีก
พิพากษากลับให้ยกฟ้อง