แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความผิดฐานดูหมิ่นเจ้าพนักงานตาม ป.อ. มาตรา 136 มีระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ เมื่อศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิพากษายกฟ้อง จึงต้องห้ามอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงตาม พ.ร.บ.จัดตั้งศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศและวิธีพิจารณาคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ พ.ศ.2539 มาตรา 39 ในการวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศต้องถือตามข้อเท็จจริงที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางวินิจฉัย
จำเลยที่ 1 พูดต่อผู้เสียหายที่ 2 กับพวกซึ่งเป็นเจ้าพนักงานสรรพสามิตผู้มีอำนาจหน้าที่จับกุมผู้กระทำความผิดต่อกฎหมายเกี่ยวกับสรรพสามิตว่า “พวกมึงเป็นข้าราชการรังแกประชาชน แกล้งจับกู” ถ้อยคำดังกล่าวมิใช่เป็นเพียงคำกล่าวที่ไม่สุภาพและไม่สมควร แต่เป็นถ้อยคำดูถูก สบประมาทผู้เสียหายที่ 2 กับพวก จำเลยที่ 1 จึงมีความผิดฐานดูหมิ่นเจ้าพนักงานตาม ป.อ. มาตรา 136
แสตมป์ยาสูบของกลางที่อ้างแสดงอยู่บนซองบุหรี่ของกลางเป็นเครื่องอุปกรณ์ในการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ยาสูบ พ.ศ.2509 ต้องริบเป็นของกรมสรรพสามิตตาม มาตรา 44 แห่ง พ.ร.บ. ดังกล่าว
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองตามพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ.2534 มาตรา 4, 108, 110, 115 พระราชบัญญัติยาสูบ พ.ศ.2509 มาตรา 4, 19, 24, 43, 44, 49, 50, 53 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 32, 33, 83, 91, 136, 138, 367 และสั่งริบของกลางทั้งหมดเป็นของกรมสรรพสามิต
จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ
ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิจารณาแล้ว พิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ.2534 มาตรา110 (1) ประกอบมาตรา 108 และพระราชบัญญัติยาสูบ พ.ศ.2509 มาตรา 24 วรรคหนึ่ง ประกอบมาตรา 50 (ที่ถูก ประกอบประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83) เป็นการกระทำความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้เรียงกระทงลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ลงโทษฐานร่วมกันมีไว้เพื่อจำหน่ายสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้าปลอม ปรับคนละ 10,000 บาท และฐานร่วมกันมีไว้เพื่อขายซึ่งยาสูบที่มิได้ปิดแสตมป์ยาสูบตามพระราชบัญญัติยาสูบ พ.ศ.2509 ปรับคนละสิบห้าเท่าของค่าแสตมป์ยาสูบที่จะต้องปิด 106,650 บาท รวมปรับคนละ 116,650 บาท ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30 ริบบุหรี่ซิกาแรต 200 ซอง ของกลางเป็นของกรมสรรพสามิต ข้อหาอื่นให้ยกฟ้อง
โจทก์และจำเลยทั้งสองอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศวินิจฉัยว่า ปัญหาต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของโจทก์ในปัญหาข้อกฎหมายว่า การกระทำของจำเลยที่ 1 เป็นความผิดฐานดูหมิ่นเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่หรือไม่ โดยโจทก์อ้างว่า การที่จำเลยที่ 1 พูดต่อผู้เสียหายที่ 2 กับพวกว่า “พวกมึงเป็นข้าราชการรังแกประชาชน แกล้งจับกู กูจะเอาตำรวจกองปราบปรามมาจับพวกมึงไปติดคุกให้หมด” เป็นการดูหมิ่นผู้เสียหายที่ 2 ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่ในการจับกุมและควบคุมจำเลยที่ 1 ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี เป็นความผิดฐานดังกล่าวแล้วนั้น เห็นว่า ความผิดฐานนี้มีระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิพากษายกฟ้อง จึงห้ามมิให้คู่ความอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศและวิธีพิจารณาคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ พ.ศ.2539 มาตรา 39 ในการวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมาย ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ จึงต้องถือข้อเท็จจริงตามคำพิพากษาศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางซึ่งรับฟังตามคำเบิกความของผู้เสียหายที่ 2 ว่า จำเลยที่ 1 พูดต่อผู้เสียหายที่ 2 กับพวกด้วยถ้อยคำว่า “พวกมึงเป็นข้าราชการรังแกประชาชน แกล้งจับกู” ดังที่โจทก์ฟ้อง ซึ่งถ้อยคำดังกล่าวมิใช่เป็นเพียงคำกล่าวที่ไม่สุภาพและไม่สมควรเท่านั้น แต่เป็นการกล่าวถ้อยคำดูถูก สบประมาทผู้เสียหายที่ 2 กับพวก ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานกระทำการตามหน้าที่จับกุมจำเลยในการกระทำความผิดต่อกฎหมายเกี่ยวกับสรรพสามิต อันเป็นการกระทำความผิดฐานดูหมิ่นเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่ตามฟ้อง ที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิพากษายกฟ้องในความผิดฐานนี้ ไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ อุทธรณ์ของโจทก์ข้อนี้ฟังขึ้น
อนึ่ง โจทก์ฟ้องขอให้ริบแสตมป์ยาสูบปลอม 200 ดวง ของกลางด้วย เมื่อปรากฏว่าแสตมป์ยาสูบ 200 ดวงดังกล่าว อ้างแสดงอยู่บนซองบุหรี่ของกลางแสตมป์ยาสูบจึงเป็นเครื่องอุปกรณ์ในการกระทำผิดตามพระราชบัญญัติยาสูบ พ.ศ. 2509 ซึ่งต้องริบเป็นของกรมสรรพสามิตตามมาตรา 44 แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าวที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางไม่ริบแสตมป์ยาสูบของกลางเป็นการไม่ชอบ ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินและการค้าระหว่างประเทศเห็นสมควรแก้ไขเสียให้ถูกต้อง
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 136 ลงโทษปรับ 2,000 บาท เมื่อรวมกับโทษของจำเลยที่ 1 ในความผิดฐานอื่นแล้ว รวมปรับจำเลยที่ 1 เป็นเงิน 118,650 บาท ริบแสตมป์ยาสูบของกลางเป็นของกรมสรรพสามิต นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง