คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1065/2522

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

คำสั่งศาลอุทธรณ์ซึ่งยืนตามคำสั่งของศาลชั้นต้นที่ปฏิเสธไม่ยอมรับอุทธรณ์ เป็นที่สุดตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 236 ฎีกา ต่อไปไม่ได้

ย่อยาว

ศาลพิพากษาให้จำเลยเป็นบุคคลล้มละลาย ต่อมาเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ยื่นคำร้องขอให้ศาลแพ่งมีคำสั่งเพิกถอนการโอนทรัพย์สินและสิทธิการเช่าระหว่างจำเลยกับ ส. ผู้รับโอน ส. ยื่นคำให้การต่อสู้คดี ระหว่างพิจารณาสืบพยานทนายโจทก์ขอถามค้านพยานผู้รับโอน เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์และผู้รับโอนแถลงคัดค้าน ศาลแพ่งเห็นว่าคดีนี้มิได้เกี่ยวข้องกับโจทก์ เป็นเรื่องระหว่างเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์กับผู้รับโอน จึงมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ทนายโจทก์ถามค้าน โจทก์อุทธรณ์คำสั่งศาลแพ่งสั่งว่าเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาจึงไม่รับอุทธรณ์ โจทก์ยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่ง ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งว่า ที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่ให้ทนายซักค้านพยานผู้รับโอน เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาต้องห้ามอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 226 ให้ยกคำร้องอุทธรณ์คำสั่ง โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “กรณีที่คู่ความยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่ปฏิเสธไม่ยอมรับอุทธรณ์และศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยืนตามคำปฏิเสธของศาลชั้นต้นนั้น ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 236บัญญัติว่า คำสั่งของศาลอุทธรณ์นี้ให้เป็นที่สุด ซึ่งหมายความว่าจะฎีกาคัดค้านคำสั่งของศาลอุทธรณ์ดังกล่าวต่อไปไม่ได้ ฎีกาของโจทก์จึงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 236 ศาลฎีกาจึงไม่รับวินิจฉัยฎีกาของโจทก์

พิพากษาให้ยกฎีกาของโจทก์ คืนค่าธรรมเนียมชั้นศาลฎีกาทั้งหมดแก่โจทก์”

Share