คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 10648/2556

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยไปให้ถ้อยคำต่อคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยที่ตั้งขึ้นตามคำสั่งมหาวิทยาลัย ส. ในเรื่องที่โจทก์ถูกกล่าวหา จึงเป็นกรณีที่จำเลยในฐานะข้าราชการของมหาวิทยาลัย ส. ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐปฏิบัติหน้าที่ในฐานะพยานผู้กล่าวหา ไม่ใช่การกระทำในฐานะส่วนตัว หากโจทก์ได้รับความเสียหายจากการกระทำของจำเลยโจทก์ต้องฟ้องมหาวิทยาลัย ส. ที่จำเลยเป็นเจ้าหน้าที่ในสังกัด จะฟ้องจำเลยโดยตรงไม่ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องและแก้ไขคำฟ้องขอให้บังคับจำเลยใช้ค่าเสียหายจำนวน 1,000,000 บาท แก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงินดังกล่าวนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ
จำเลยให้การขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยใช้ค่าเสียหาย 300,000 บาท แก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงินดังกล่าว นับแต่วันฟ้อง (วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2550) เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ กับให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความ 10,000 บาท
โจทก์และจำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษากลับให้ยกฟ้อง ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสองศาลให้เป็นพับ
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เห็นว่า จำเลยเป็นข้าราชการในสังกัดมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชซึ่งเป็นนิติบุคคลมีฐานะเป็นกรม สังกัดทบวงมหาวิทยาลัยตามพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช พ.ศ.2521 มาตรา 5 วรรคสอง จำเลยจึงเป็นเจ้าหน้าที่ส่วนมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชอันเป็นหน่วยงานของรัฐ ตามบทวิเคราะห์ศัพท์ในมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่พ.ศ.2539 การที่จำเลยไปให้ถ้อยคำต่อคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยซึ่งตั้งขึ้นตามคำสั่งมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชในเรื่องที่โจทก์ถูกกล่าวหานั้น เป็นการกระทำในการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะพยานผู้กล่าวหาเพื่อให้การเป็นไปตามคำสั่งดังกล่าว หาใช่กระทำในฐานะส่วนตัวไม่ หากโจทก์เห็นว่าถ้อยคำที่จำเลยให้ไว้ต่อคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยไม่เป็นความจริงก่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์อันเป็นการกระทำละเมิด โจทก์ก็ต้องฟ้องมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชอันเป็นหน่วยงานของรัฐที่จำเลยเป็นเจ้าหน้าที่ในสังกัดจะฟ้องจำเลยโดยตรงหาได้ไม่ ตามพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่พ.ศ.2539 มาตรา 5 ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 วินิจฉัยว่า โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องเรียกค่าเสียหายจากจำเลยจึงชอบแล้ว ฎีกาของโจทก์ในข้อนี้ฟังไม่ขึ้น และคดีไม่จำต้องวินิจฉัยฎีกาของโจทก์ในข้ออื่นอีกเพราะไม่ทำให้ผลคดีเปลี่ยนแปลงไป
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ

Share