แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ตามกระบวนพิจารณาเป็นหน้าที่ของโจทก์จะต้องปฏิบัติการตามกฎหมายเพื่อให้ได้พยานมาให้ศาลสืบในวันเวลากำหนดนัด
คดีอาญา ศาลได้นัดพิจารณาและกำหนดให้จำเลยยื่นคำให้การในวันนัดครั้นถึงวันนัดโจทก์กลับว่าเข้าใจว่าเป็นวันนัดชี้สองสถานโจทก์จึงไม่ระบุพยานและขอหมาย ทั้งทนายโจทก์ป่วย ขอเลื่อนสืบจำเลยคัดค้าน ดังนี้ศาลไม่
อนุญาตให้เลื่อนและพิพากษายกฟ้องโดยถือว่า โจทก์ไม่มีพยานสืบให้สมฟ้องได้
ย่อยาว
คดีนี้ โจทย์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานโฆษณาหมิ่นประมาทโจทก์ ในหนังสือพิมพ์เดลิเมล์รายวัน
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วมีคำสั่งให้ประทับฟ้อง หมายเรียกจำเลยมาแก้คดี ถึงวันนัดจำเลยที่ ๑-๒ ยื่นคำให้การแต่จำเลยที่ ๓ ยื่นคำร้องว่าป่วยของเลื่อนไปวันที่ ๑๑ พฤษภาคม ๒๔๙๖ เวลา ๙.๐๐ น. ศาลมีคำสั่งว่านัดพิจารณาไปและให้จำเลยที่ ๓ ยื่นคำให้การในวันนั้น ถึงวันนัดโจทก์จำเลยไปศาลทุกคน โจทก์กลับแถลงต่อศาลว่า เข้าใจว่าเป็นนัดชี้สองสถาน โจทก์จึงไม่ได้ระบุพยานและขอหมาย ทั้งทนายโจทก์ก็ป่วย ขอเสื่อมสืบ จำเลยคัดค้าน
ศาลชั้นต้นเห็นว่าโจทก์ไม่มีพยานมาสืบสมฟ้อง พิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับอนุญาตให้โจทก์เลื่อนการพิจารณาได้ตามขอ และให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกา เห็นว่าตามกระบวนพิจารณาเป็นหน้าที่ของโจทก์จะต้องปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อให้ได้พยานมาให้ ศาลสืบในวันเวลากำหนดนัด การที่ศาลชั้นต้นสั่งในคำพิพากษาไม่ให้เลื่อน จะสั่งก่อนนั้นหรือไม่ไม่สำคัญเพราะโจทก์มิได้เตรียมพยานมาใช้พร้อมเลย
พิพากษากลับ ให้บังคับคดีตามศาลชั้นต้น