แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ฉุดคร่าห์หญิงไปเพื่อจะเอาเป็นภริยา แม้ยังไม่ทันล่วงเกินหญิง ก็เป็นผิดตามมาตรา 276
ย่อยาว
ได้ความว่าจำเลยสมคบกันฉุดคร่าเจ้าทุกข์ไป และในการนี้ได้ใช้อาวุธทำร้ายนายเปลื้องถึงแก่ความตาย และนางกุ่ยนางสาวทองคำมีบาดเจ็บ ศาลชั้นต้นฟังว่าจำเลยสมคบกันฉุดคร่าเจ้าทุกข์ไปจริง แต่ไม่ใช่เพื่อการอนาจาร เพราะเจ้าทุกข์เองก็ว่าจำเลยไม่ได้ล่วงเกินอะไร คงมีผิดเพียงฐานทำให้เสื่อมเสียอิสสรภาพตามกฎหมายลักษณอาญามาตรา ๒๖๘ ส่วนข้อหาว่าสมคบกันยิงนายเปลื้องตายไม่ได้ความดังนั้น จึงให้ยกข้อหาข้อนี้ คงลงโทษฐานทำร้ายร่างกายนางกุ่ยนางสาวทองคำตามมาตรา ๓๓๘ ข้อ ๓
ศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงเช่นเดียวกับศาลชั้นต้นว่าจำเลยสมคบกันฉุดคร่าเจ้าทุกข์ไปและฟังไม่ได้ว่าได้สมคบกันยิงนายเปลื้องตาย แต่เรื่องเช่นนี้ไม่หมายความว่าต้องทำอนาจารด้วย เพียงฉุดไปเพื่อการอนาจารก็ผิดตามมาตรา ๒๗๖ แล้ว จึงพิพากษาแก้ให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา ๒๗๖
จำเลยฎีกาว่าการกระทำของจำเลยยังไม่เป็นความผิดตามมาตรา ๒๗๖ ศาลฎีกาเห็นว่าความผิดตามมาตรา ๒๗๖ นั้นเพียงได้ความว่าฉุดไปเพื่อการอนาจารก็เป็นผิดเรื่องนี้ได้ความว่าว่าจำเลยคนหนึ่งรักใคร่เจ้าทุกข์และต้องการเอาไปเป็นภริยา แม้ได้ฉุดคร่าไปแล้วจำเลยยังมิได้ล่วงเกินเจ้าทุกข์ให้เสียความบริสุทธิ์ก็ดี แต่จำเลยได้ฉุดคร่าไปเพื่อการประเวณี จึงเป็นการอนาจารอยู่ในตัว จำเลยต้องมีผิดตามมาตรา ๒๗๖ จึงพิพากษายืน