คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1063/2482

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

แม้จะไม่ใช่ประเด็นที่ฝ่ายใดฎีกาขึ้นมา แต่การที่ศาลล่างลงโทษจำเลยโดยปรับบทผิดศาลฎีกาพิพากษาแก้ปรับบทใหม่ตามบทที่ถูกต้องนั้นได้
จำเลยแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงานสอบสวนกล่าวหาว่าเขาเป็นผู้ร้ายลักทรัพย์ ขอให้ไปจับกุมมาสอบสวน เขาจึงถูกจับมาควบคุมสอบสวนดังนี้ จำเลยยังไม่มีผิดตามกฎหมายอาญา ม.270 คงมีผิดเพียงฐานแจ้งความเท็จ
อ้างฎีกาที่ 169/2479 , 484/2479

ย่อยาว

ได้ความว่าจำเลยแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงานสอบสวนตำรวจภูธรว่า นายจันเป็นผู้ร้ายลักเสื้อกุยเฮงของจำเลยและเอาไปจำนำไว้กับผู้มีชื่อ ขอให้ไปจับกุมมาสอบสวน เจ้าพนักงานหลงเชื่อจึงจับนายจันมาสอบสวนและควบคุมไว้ ๔ วัน ความจริงนายจันซื้อเชื่อเสื้อนั้นไปจากจำเลย
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีผิดตามกฎหมายอาญามาตรา ๑๑๘,๒๗๐ แต่ให้ลงโทษตามมาตรา ๒๗๐ อันเป็นบทหนัก
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ฉะเพาะการวางโทษ
จำเลยฎีกาโดยผู้พิพากษา ๒ นายรับรองฎีกา ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยศาลอุทธรณ์ในการวางโทษ แต่เห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องแจ้งความเท็จ แม้จำเลยจะขอให้จับกุมนายจันมา นานจันต้องถูกจับกุมและควบคุมหาได้เกิดจากการกระทำของจำเลยโดยตรงไม่เมื่อแจ้งความแล้วก็เป็นเรื่องและอำนาจของเจ้าพนักงานจะวินิจฉัยว่าควรจับหรือไม่ ยังไม่พอวินิจฉัยว่าจำเลยใช้ให้จับ จึงพิพากษาแก้ว่าจำเลยผิดตามมาตรา ๑๑๘ บทเดียว ไม่มีผิดตาม ม.๒๗๐ ด้วย ส่วนกำหนดโทษและข้อความอื่นพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์

Share