แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยกล่าวถ้อยคำว่า ‘ผู้อำนวยการคนนี้ใครว่าดีเดี๋ยวนี้ดีแตกเสียแล้ว ไปติดต่อเรื่องคนไข้ก็มาไล่โรงพยาบาลเป็นของรัฐบาล ไม่ใช่ของผู้อำนวยการตึกบุญเอี่ยมเป็นของชาวเมืองเพชรสร้าง บ้านที่ผู้อำนวยการอยู่ก็ต้องอาศัยเขาอยู่ เป็นหมอควรจะใจเย็นแต่นี่ใจร้อนยังกับไฟ ใช้ไม่ได้ ถึงเจ็บก็ไม่มารักษาที่นี่ จะเอาเรื่องทุกอย่างไปลงสาสน์เพชร’จำเลยกล่าวถ้อยคำเหล่านั้นด้วยความน้อยใจและมีอารมณ์โกรธเนื่องจาก ถูกนายแพทย์ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพูดเป็นทำนองไล่อันเป็นการไม่สมควร เพราะเป็นการขาดคารวะ แต่ก็ยังไม่ถึงกับเป็นการดูหมิ่นหรือใส่ความ ตามมาตรา 136และ 326 แห่งประมวลกฎหมายอาญา
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานดูหมิ่นใส่ความเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 136, 326
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นเชื่อข้อเท็จจริงว่าจำเลยได้กระทำผิดตามฟ้องพิพากษาปรับจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 136
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยได้กล่าวว่าผู้เสียหายว่า”ผู้อำนายการคนนี้ใครว่าดี เดี๋ยวนี้ดีแตกเสียแล้ว ไปติดต่อเรื่องคนไข้ก็มาไล่ โรงพยาบาลเป็นของรัฐบาล ไม่ใช่ของผู้อำนวยการตึกบุญเลี่ยมเป็นของชาวเมืองเพชรสร้าง บ้านที่ผู้อำนวยการอยู่ก็ต้องอาศัยเขาอยู่ เป็นหมอควรจะใจเย็น แต่นี่ใจร้อนยังกับไฟใช้ไม่ได้ ถึงเจ็บก็ไม่มารักษาที่นี้ จะเอาเรื่องทุกอย่างไปลงสาส์นเพชร” และเห็นว่าจำเลยกล่าวถ้อยคำเหล่านั้นด้วยความน้อยใจประกอบกับมีอารมณ์โกรธผู้เสียหายที่พูดไล่จำเลย จำเลยกล่าวถ้อยคำเช่นนั้นต่อผู้เสียหายซึ่งเป็นนายแพทย์ผู้มีตำแหน่งเป็นผู้อำนายการโรงพยาบาล อันเป็นการไม่สมควร เพราะเป็นการขาดคารวะ แต่ก็ยังไม่ถึงกับเป็นการดูหมิ่นหรือใส่ความอันจะเป็นการผิดกฎหมายดังโจทก์ฟ้อง
พิพากษายืน