คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1058/2497

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยมิได้ระบุพยานตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 88 วรรคหนึ่ง โดยอ้างว่าเพิ่งไปหาทนายว่าต่างและขอระบุพยานในวันสืบพยาน ศาลสั่งว่าไม่มีเหตุสมควร ไม่อนุญาตตามมาตรา 88 วรรคสาม เมื่อจำเลยมิได้โต้แย้งคำสั่งนั้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 226 แต่ประการใด ดังนี้ จะอุทธรณ์ฎีกาคำสั่งนั้นไม่ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องและยื่นคำร้องแก้ฟ้องว่า เรือนและยุ้งพิพาทเป็นของนายคำบิดาโจทก์ ซึ่งยกให้เป็นกรรมสิทธิ์แก่โจทก์เมื่อก่อนวายชนม์ โจทก์ได้ครอบครองเองบ้าง ให้นายเล็กหลานโจทก์ดูแลแทนบ้าง เมื่อเดือน 11 ปีนี้จำเลยขัดขวางมิให้โจทก์ครอบครองและมิให้นายเล็กเข้าเกี่ยวข้องเรือนและยุ้งพิพาท ขอให้ศาลแสดงว่าเรือนและยุ้งพิพาทเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์ ห้ามจำเลยเกี่ยวข้อง

จำเลยให้การว่า เรือนและยุ้งพิพาทเป็นของนายคำบิดานางเปลื้องแล้วตกได้แก่นางเปลื้อง เมื่อนางเปลื้องตายตกได้แก่จำเลย จำเลยได้ครอบครองมาจนบัดนี้ นายเล็กและโจทก์มิเคยเกี่ยวข้อง

ถึงวันนัดสืบพยาน ทนายจำเลยยื่นคำร้องว่า ยังไม่ได้ระบุพยานเพราะจำเลยเพิ่งไปหาทนายว่าต่าง จึงขอระบุพยานในวันนั้นโจทก์คัดค้าน

ศาลชั้นต้นสืบพยานโจทก์เสร็จแล้ว สั่งว่าจำเลยยื่นคำร้องมาไม่มีเหตุผลสมควรตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 88จึงไม่อนุญาต คงให้จำเลยอ้างตัวเองเบิกเป็นพยานได้ แล้วเลื่อนไปสืบตัวจำเลยเป็นพยาน แล้วเลื่อนไปสืบตัวจำเลยเป็นพยาน

ศาลชั้นต้นฟังว่า นายคำได้ยกเรือนและยุ้งพิพาทให้โจทก์จริงพิพากษาให้เป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์ ห้ามจำเลยเกี่ยวข้อง

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกาคัดค้าน ในข้อเท็จจริงและขอให้จำเลยนำสืบพยานตามที่อ้างไว้นั้นต่อไปด้วย

ศาลฎีกาฟังว่า เรือนพิพาททนายคำยกให้โจทก์ ส่วนยุ้งพิพาทมีหลังเดียวไม่น่าจะคิดไปว่านายคำจะยกให้โจทก์ มิฉะนั้นนางเปลื้องจะเอาข้าวเปลือกเก็บไว้ที่ไหน โจทก์เองก็รับว่านางเปลื้องได้ใช้ยุ้งนี้เก็บข้าวร่วมกับโจทก์ จึงฟังว่าเป็นมรดกของนางเปลื้องตกได้แก่นางสำริตจำเลย

ส่วนที่จำเลยฎีกาขอสืบพยานอื่นต่อไปนั้น จำเลยมิได้โต้แย้งคำสั่งนั้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 226แต่ประการใด ที่ศาลชั้นต้นไม่ยอมให้สืบนั้นชอบแล้ว

พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ว่า เรือนพิพาทเป็นของโจทก์ห้ามจำเลยเกี่ยวข้อง ส่วนยุ้งพิพาทเป็นของจำเลย

Share