คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1053/2493

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากห้องเช่าพิพาท เมื่อปรากฎข้อความในฟ้องทำให้เข้าใจได้ว่าจำเลยอยู่ในห้องเช่าพิพาทหนี้และตามคำให้การของจำเลยก็บอกไว้ว่า จำเลยตั้งบ้านเรือนอยู่ในตำบลเขตต์เทศบาล ดังนี้ ก็พอฟังได้ว่าห้องพิพาทกันนี้อยู่ในเขตต์เทศบาลและจำเลยยังกล่าวในคำให้การว่า โจทก์ขึ้นค่าเช่ามีเจตนาฝ่าฝืน พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าฯลฯ จำเลยจึงปฏิเสธ ดังนี้พอฟังได้ว่าจำเลยกล่าวอ้างขอความคุ้มครองจาก พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าฯลฯ แล้ว

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากห้องเช่าของโจทก์โดยอ้างว่าจำเลยไม่ชำระค่าเช่าตามกำหนด และค้างชำระค่าเช่าถึง ๔ เดือน โจทก์บอกเลิกสัญญาเช่าจำเลยไม่ยอมออกจากบ้าน จึงมาฟ้องขับไล่และเรียกค่าเช่าที่ค้างชำระ
จำเลยต่อสู้ว่า ไม่เคยค้างค่าเช่าได้นำค่าเช่าไปชำระแก่โจทก์ทุกเดือนแต่โจทก์ไม่ยอมรับเพราะจะขึ้นค่าเช่าตึก
ศาลชั้นต้นฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยค้างชำระค่าเช่าจริงและในคำให้การก็ไม่ได้ยกประเด็นต่อสู้ว่า ห้องเช่าอยู่ในเขตต์เทศบาลอันจะได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ. ควบคุมค่าเช่า ฯลฯ จึงพิพากษาขับไล่จำเลยกับให้จำเลยชำระค่าเช่าที่ค้าง
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า จำเลยไม่ได้ผิดนัดชำระค่าเช่าเพราะโจทก์ไม่ยอมรับเอง แต่ตามคำฟ้องก็ดีคำให้การต่อสู้ของจำเลยไม่ได้กล่าวอ้างถึง พ.ร.บ. ควบคุมค่าเช่า ฯลฯ การเช่ารายนี้จึงไม่อยู่ในข่ายตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯลฯ เมื่อโจทก์บอกเลิกสัญญาแล้วการเช่าก็เป็นอันระงับ โจทก์มีสิทธิให้จำเลยออกจากห้องพิพาทได้ แต่การเช่ารายนี้ไม่มีหนังสือ โจทก์จะขอให้บังคับไม่ได้ จึงพิพากษาแก้ให้ยกฟ้องโจทก์ในคำขอให้จำเลยใช้ค่าเช่าเสีย นอกนั้นยืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่าตามฟ้องโจทก์บอกไว้ว่าห้องแถวพิพาทหมายเลขทะเบียนที่ ๐๘๓ ตั้งอยู่ถนนธนเจริญ ตำบลบางพระ อำเภอเมืองตรา จังหวัดตราด โจทก์เขียนบอกที่อยู่ของจำเลยไว้ในแบบพิมพ์หน้าฟ้องก็ว่าจำเลยอยู่บ้านเลขที่ ๐๘๓ ถนนเจริญตรอกหรือซอยใกล้เคียง ตำบลบางพระ อำเภอเมืองตราด จังหวัดตราด เข้าใจได้ว่าจำเลยอยู่ในห้องพิพาทกันนี้ ตามคำให้การของจำเลยก็บอกชัดไว้ว่าจำเลยตั้งบ้านเรือนอยู่ตลาดริมคลองตำบลในเขตต์เทศบาล อำเภอเมืองตราด จังหวัดตราด เมื่อพิจารณาประกอบกันแล้วพอฟังได้ว่าห้องพิพาทกันในคดีนี้อยู่นเขตต์เทศบาลเมืองตราด ตามคำให้การต่อสู้คดีของจำเลยก็ได้กล่าวว่าโจทก์ขึ้นค่าเช่ามีเจตนาฝ่าฝืน พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯลฯ จำเลยจึงปฏิเสธ พอฟังได้ว่าจำเลยได้กล่าวอ้างขอความคุ้มครองจาก พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯลฯ จำเลยจึงปฏิเสธ พอฟังได้ว่าจำเลยได้กล่าวอ้างขอความคุ้มครองจาก พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าฯ อยู่แล้ว ศาลฎีกาเห็นว่าพอรับฟังได้ว่าห้องแถวรายพิพาทอยู่ในเขตต์เทศบาลเมืองตราด และจำเลยได้กล่าวอ้าง พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯลฯ ขึ้นต่อสู้คุ้มครองแล้ว ศาลก็หยิบยกเอา พ.ร.บ.นี้มาวินิจฉัยได้
สำหรับข้อเท็จจริง ศาลอุทธรณ์ฟังมาว่าจำเลยไม่ได้ค้างค่าเช่าต่อโจทก์ ๆ จึงไม่มีสิทธิบอกเลิกสัญญาเช่าและขับไล่จำเลยได้ จึงพิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์

Share