คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1052/2555

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยพูดทวงเงินที่ ถ. ค้างชำระแล้วจำเลยกับ ถ. มีปากเสียงด่าว่ากัน และจำเลยได้ด่าว่า โคตรของมึงยืมเงินกูไปเป็นประจำ ไอ้หรัด อีต้อย ก็ไปยืมเงินกู เหตุเกิดขณะ ถ. กับจำเลยต่างทะเลาะโต้เถียงกันต่างอยู่ในอารมณ์โกรธ ข้อความที่ว่าไอ้หรัดซึ่งหมายถึงผู้เสียหายเป็นเพียงคำเรียกหาที่ไม่สุภาพ ส่วนที่ว่าผู้เสียหายเคยยืมเงินจำเลยก็กล่าวตามข้อเท็จจริงซึ่งผู้เสียหายรับว่าเคยกู้ยืมเงินจากจำเลยจริง ทั้งการกู้ยืมเงินกันก็ถือเป็นเรื่องปกติ ไม่มีข้อความกล่าวถึงกับว่าผู้เสียหายคดโกง ดังนี้ ตามความรู้สึกของวิญญูชนทั่วๆ ไปจึงไม่เป็นถ้อยคำที่ทำให้ผู้ฟังเข้าใจถึงขนาดความเชื่อถือไว้วางใจ หรือความคดโกงชั่วร้าย อันจะเป็นเหตุให้ผู้เสียหายเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเกลียดชังแต่ประการใด การกระทำของจำเลยจึงไม่มีความผิดฐานหมิ่นประมาท

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์โดยอธิบดีอัยการฝ่ายคดีศาลสูงเขต 9 ซึ่งอัยการสูงสุดได้มอบหมายรับรองให้อุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลอุทธรณ์ภาค 9 พิพากษากลับว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 ให้ปรับจำเลย 5,000 บาท ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า แม้นางถวิลและนายวิบูลย์ พยานโจทก์ที่เบิกความยืนยันว่าจำเลยว่ากล่าวข้อความดังกล่าวจะเป็นญาติกับผู้เสียหาย ซึ่งญาติย่อมเบิกความช่วยกันแต่ก็ได้ความจากจำเลยเองว่า หลังเกิดเหตุมีการแจ้งความกล่าวหากัน จำเลยมีโอกาสพบผู้เสียหายที่สถานีตำรวจโดยจำเลยยอมรับว่า จำเลยได้กล่าวพาดพิงถึงผู้เสียหายจริงและกล่าวขอโทษผู้เสียหาย คดีนี้แม้จำเลยจะอ้างว่าได้กล่าวพาดพิงผู้เสียหายในทางอื่น แต่ก็เจือสมกับคำเบิกความพยานโจทก์ ประกอบกับขณะนั้นทั้งนางถวิลกับจำเลยต่างทะเลาะด่าว่ากันด้วยเรื่องเงินกู้ยืม จึงมีเหตุน่าเชื่อว่าจำเลยได้ว่ากล่าวกับนางถวิลถึงข้อความดังกล่าวจริง อย่างไรก็ตามเหตุเกิดขณะนางถวิลกับจำเลยต่างทะเลาะโต้เถียงกัน ต่างอยู่ในอารมณ์โกรธ ข้อความที่ว่าไอ้หรัดซึ่งหมายถึงผู้เสียหายเป็นเพียงคำเรียกหาที่ไม่สุภาพ ส่วนที่ว่าผู้เสียหายเคยยืมเงินจำเลยก็กล่าวตามข้อเท็จจริงซึ่งผู้เสียหายรับว่าเคยกู้ยืมเงินจากจำเลยจริง ทั้งการกู้ยืมเงินกันก็ถือเป็นเรื่องปกติ ไม่มีข้อความกล่าวถึงกับว่าผู้เสียหายคดโกง ดังนี้ ตามความรู้สึกของวิญญูชนทั่ว ๆ ไป จึงไม่เป็นถ้อยคำที่ทำให้ผู้ฟังเข้าใจถึงขนาดความเชื่อถือไว้วางใจ หรือความคดโกงชั่วร้าย อันจะเป็นเหตุให้ผู้เสียหายเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเกลียดชังแต่ประการใด การกระทำของจำเลยจึงไม่ผิดฐานหมิ่นประมาท ฎีกาของจำเลยฟังขึ้น
พิพากษากลับให้ยกฟ้อง

Share