คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 944/2478

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความผิดฐานแจ้งความเท็จต้องประกอบด้วยนำความที่รู้อยู่ว่าเป็นเท็จไปแจ้งต่อเจ้าพนักงานและอาจทำให้ผู้อื่นเสียหายได้ ไม่เกี่ยวกับเรื่องมีอำนาจหรือไม่มีอำนาจ
พ.ร.บ.ฎีกาอุทธรณ์ 2461 ม.5 ประมวลวิธีพิจารณาอาญา ม.219
คดีที่ศาลล่างทั้ง 2 พิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์โดยอาศัยข้อเท็จจริงนั้นฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้

ย่อยาว

คดีนี้โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานแจ้งความเท็จและทำให้เสื่อมเสียอิศระภาพตามมาตรา ๑๑๘ – ๒๗๐
ศาลล่างทั้ง ๒ ฟังข้อเท็จจริงต้องกันมาว่าจำเลยไม่มีเจตนาแกล้วโจทก์แต่ประการใดเลย ส่วนที่โจทก์ถูกขังชั้นโรงพักก็เพราะโจทก์หาประกันไม่ได้เองและการขังนั้นก็เป็นวิธีปฏิบัติของเจ้าพนักงาน จึงพิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกาว่าจำเลยไม่มีอำนาจที่จะบอกให้ตำรวจจับโจทก์ได้ จำเลยจึงควรมีผิดตามฟ้อง
ศาลฎีกาตัดสินว่าในเรื่องแจ้งความเท็จตามมาตรา ๑๑๘ นั้นจะเป็นผิดต่อเมื่อนำความที่รู้อยู่ว่าเป็นเท็จไปแจ้งต่อเจ้าพนักงานและอาจทำให้ผู้ใดเสียหาย มาตรานี้ไม่ได้เกี่ยวแก่การมีอำนาจหรือไม่ด้วยเลย ส่วนการที่โจทก์ถูกกักขังชั้นโรงพักนั้นศาลล่างทั้ง ๒ ก็ได้ยกฟ้องโจทก์เสีย โดยอาศัยข้อเท็จจริง ฎีกาโจทก์จึงต้องห้ามตาม พ.ร.บ.ฎีกาอุทธรณ์ พ.ศ. ๒๔๖๑ ม. ๕ จึงพิพากษาให้ยกฎีกาโจทก์ ยืนตามศาลเดิม

Share