แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เมียร้างมีชู้ไม่ริบทรัพย์ แปลกฎหมายสินสมรสเมียร้างริบได้เพียงใด
ย่อยาว
โจทก์จำเลยที่ ๑ ได้เสียกันเองไม่มีทุนสินเดิมมีบุตร์ ๒ คน ในระวางอยู่กินด้วยกันจำเลยที่ ๑ ได้รับมฤดกจากบิดา ต่อมาเมื่อเมษายน พ.ศ.๒๔๗๐ โจทก์กับนางเจียนลอบรักกันแล้วพากันไปอยู่นครราชสีมาเปนเวลาตั้ง ๗ เดือนดังนี้ จำเลยที่ ๑ ก็ไม่ทราบว่าโจทก์ไปไหน จำเลยที่ ๑ แลที่ ๒ ได้อยู่กินด้วยกันฉันท์สามีภรรยา โจทก์จึงมาฟ้องขอให้ปรับชายชู้แลริบทรัพย์
ศาลแพ่งแลศาลอุทธรณ์ตัดสินปรับจำเลยที่ ๒ ฐานผิดเมีย ๑๖๐ บาทแลให้ริบทรัพย์
ศาลฎีกาเห็นว่า โจทก์ทิ้งภรรยาไปจากพระนครอันเปนระยะทางไม่เกิน ๑ วัน จึงต้องถือว่าจำเลยที่ ๑ อยู่ในฐานภรรยาร้าง แลจำเลยที่ ๒ ทำชู้กับภรรยาร้าง ต้องถูกปรับฐานทำชู้กับภรรยาร้างตามบท ๔๙-๕๖ แลฎีกาที่ ๓๘๗/๑๒๒ แต่เพียงกึ่งปฐมผิดเมีย จึงให้ปรับจำเลยที่สอง ๘๐ บาท ส่วนการริบทรัพย์นั้นเห็นว่าบทที่ ๑๐ หมายถึงภรรยาที่อยู่กินกับสามีตามปรกติไม่ใช่ร้าง เพราะกฎหมายว่าด้วยภรรยาร้าง ไม่กล่าวถึงการริบทรัพย์เลย ถ้าประสงค์จะริบทรัพย์ภรรยาร้างด้วยแล้ว คงบัญญัติไว้ในตอนนั้นด้วย จึงเห็นว่าความประสงแห่งกฎหมายคุ้มครองสามีภรรยาที่อยู่กันโดยปรกตินั้นต่างกับสามีภรรยาที่ร้างกัน จึงไม่ควรริบทรัพย์สินสมรส