แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
คดีร้องขอให้รับรองบุตรนั้น ผู้ร้องย่อมขอแก้วันเกิดของเด็กได้ในเมื่อไม่ทำให้ผู้คัดค้านเสียเปรียบในเชิงคดี
ป.ม.แพ่ง ฯ มาตรา 1519 บัญญัติแต่เพียงว่า เด็กเกิดแต่หญิงขณะเป็นภรรยาชาย ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นบุตรของชายผู้เป็นสามี มิได้วางข้อบัญญัติไว้โดยเด็ดขาดว่าเป็นบุตรของชายผู้เป็นสามี จึงเป็นเรื่องพิสูจน์หักล้างข้อสันนิษฐานได้ และบทบัญญัติในเรื่องฟ้องขอให้รับรอง ก็มิได้วางข้อบัญญัติกีดกั้นมิให้ฟ้องในกรณีเช่นนี้ ฉะนั้นเมื่อเข้าหลักเกณฑ์ในเรื่องฟ้องขอให้รับเด็กเป็นบุตรแล้ว ผู้ร้องก็ย่อมมีอำนาจฟ้องได้
เด็กซึ่งเกิดกับชายชู้นั้นมารดาของเด็กย่อมร้องขอให้ศาลพิพากษาว่าเด็กเป็นบุตรของชายชู้ได้ มาตรา 1529 (4) ไม่ได้กีดกันถึงกรณีที่เป็นชู้กันด้วย.
ย่อยาว
นางสงวนยื่นคำร้องว่า ผู้ร้องได้อยู่กินกับนายเล็กอย่างสามีภรรยาโดยเปิดเผย และมิได้จดทะเบียนสมรส ได้เกิดบุตรกับนายเล็กหนึ่งคน ชื่อเด็กชายประสพโชค ผลทวี นายเล็กได้ถึงแก่กรรม จึงขอให้ศาลพิพากษาว่า เด็กชายประสพโชค ผลทวี เป็นบุตรของนายเล็ก นางตามารดานายเล็กยื่นคำร้องคัดค้านว่า คำร้องนั้นไม่เป็นความจริง ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วฟังว่า เดิมผู้ร้องมีสามีโดยจดทะเบียนสมรสมาแล้ว ได้พากันไปอยู่ที่ชุมพร ผู้ร้องก็เข้ามากรุงเทพฯ และไม่ได้กลับไปอีก แล้วก็มาได้เสียอยู่กินกับนายเล็กฉันท์สามีภรรยา ผู้ร้องได้คลอดบุตรในระหว่างที่อยู่กินกับนายเล็ก ศาลชั้นต้นเห็นว่า นายเล็กอยู่ในฐานะเป็นชู้กับผู้ร้อง เป็นการขัดต่อศีลธรรมอันดี จึงสั่งยกคำร้อง
ศาลอุทธรณ์ฟังว่า เด็กชายประสพโชคเป็นบุตรผู้ร้องกับนายเล็กโดยทางธรรมชาติ และโดยทางสืบสายโลหิต และข้อเท็จจริงฟังได้ชัดว่า ทั้งนายเล็กและผู้ร้องคัดค้านรับรองโดยเปิดเผยว่าผู้ร้องเป็นภรรยา และเด็กชายประสพโชคเป็นบุตรนายเล็ก พิพากษากลับว่า เด็กชายประสพโชคเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายของนายเล็ก
ผู้คัดค้านฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า
๑. ศาลอนุญาตให้ผู้ร้องยื่นคำร้องขอแก้วันเกิดของเด็กตามคำร้องเดิมว่า เด็กเกิดวันที่ ๑ กันยายน ๒๔๘๙ เป็นวันที่ ๑๖ กรกฎาคม ๒๔๘๙ ศาลฎีกาเห็นว่า การขอแก้มิได้ทำให้ผู้คัดค้านเสียเปรียบในเชิงคดีแต่อย่างไร
๒. ข้อฎีกาที่ว่า ผู้ร้องยังเป็นภรรยานายบุญปลูกอยู่ ตามกฎหมายต้องถือว่าเด็กเป็นบุตรของนายบุญปลูกอยู่ ผู้ร้องจะขอให้ศาลสั่งว่านายเล็กเป็นบิดาของเด็กไม่ได้ ศาลฎีกาเห็นว่าตาม ป.ม.แพ่งฯ มาตรา ๑๕๑๙ บัญญัติแต่เพียงว่า เด็กเกิดแต่หญิงขณะเป็นภรรยาชาย ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นบุตรของชายผู้เป็นสามี มาตรานี้มิได้วางข้อบัญญัติไว้โดยเด็ดขาดว่าให้ถือเป็นบุตรของชายผู้เป็นสามี เป็นแต่วางข้อสันนิษฐานไว้ จึงเป็นเรื่องพิสูจน์หักล้างข้อสันนิษฐานนั้นได้ และบทบัญญัติในเรื่องฟ้องขอให้รับรองเด็กเป็นบุตรก็มิได้วางข้อบัญญัติกีดกั้นมิให้ฟ้องในกรณีเช่นนั้น ฉะนั้นเรื่องเข้าหลักเกณฑ์ในเรื่องฟ้องขอให้รับเด็กเป็นบุตรแล้ว ผู้ร้องย่อมมีอำนาจฟ้องได้
๓. ผู้คัดค้านฎีกาว่า มาตรา ๑๕๒๙ (๔) หมายถึงอยู่กินด้วยกันอย่างเปิดเผยอย่างสงบ อย่างสามีภรรยาทั้งหลาย การเป็นชู้กันไม่เข้าข้อบัญญัติดังกล่าว ศาลฎีกาเห็นว่ากฎหมายบัญญัติตรงไปตรงมาแล้วว่า บิดามารดาอยู่กินด้วยกันอย่างเปิดเผยในระยะเวลาซึ่งหญิงมารดาอาจตั้งครรภ์ได้ ไม่มีข้อบัญญัติกีดกั้นถึงกรณีที่เป็นชู้กันไว้ด้วย ฉะนั้นบทมาตราที่กล่าวแล้ว จึงนำมาใช้ในคดีนี้ได้
พิพากษายืน.