คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1046-1052/2496

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ซื้อที่ดินและห้องแถวมาจากเจ้าของเดิม โดยมีความประสงค์จะรื้อห้องแถวปลูกเป็นโกดัง จึงได้เจรจากับผู้เช่าห้อง แถวนั้น ให้ออกไป ในที่สุดผู้เช่ายอมออกได้ทำสัญญากันมีความดังนี้ “ผู้เช่าขอเช่ามีกำหนดเวลาสามเดือนฯลฯ เพื่อ อาศัยชั่วคราว โดยผู้ให้เช่าแจ้งให้ทราบแล้วว่าจะรื้อห้องนี้ ผู้เช่าจึงขอให้ความยินยอมไว้ว่าจะย้ายไปทันทีเมื่อครบ กำหนดเวลาเช่า ผู้ให้เช่าตกลงให้ค่าย้ายสามร้อยบาทถ้วน” ดังนี้เป็นการยินยอมจากผู้เช่าแล้ว ถ้าถึงกำหนดแล้ว ขัดขืนไม่ออก ผู้ให้เช่าย่อมฟ้องขับไล่ได้./
โจทก์ฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยออกจากที่เช่า และให้จำเลยมารับเงินค่าขนย้าย 300 บาทจากโจทก์เช่นนี้ ศาลก็ย่อม พิพากษาให้ขับไล่และให้โจทก์+ เงินห้องละ 300 บาทให้จำเลย

ย่อยาว

คดี ๗ สำนวนนี้ โจทก์ฟ้องมีความต้องกันว่า จำเลยเป็นผู้เช่าห้องแถวพิพาท โจทก์บอกเลิกสัญญาเช่าแล้ว จำเลยขัดขืน ไม่ยอมออกจากห้องเช่า จึงขอให้ศาลขับไล่
จำเลยต่อสู้คดีหลายประการ
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์,
ศาลอุทธรณ์ฟังว่า จำเลยได้ตกลงยินยอมออกจากที่เช่ารายนี้แล้ว จึงพิพากษากลับให้ขับไล่จำเลยออกจากห้องเช่า
จำเลยทั้ง ๗ สำนวนฎีกา,
ศาลฎีกาคงฟังข้อเท็จจริงว่า โจทก์ซื้ที่รายนี้มาจากหม่อมแช่ม มีความประสงค์จะรื้อห้องแถวปลูกเป็นโกดัง จึงเจรจา ปรองดองกับผู้เช่าให้ออกไปในที่สุดพวกที่เช่าตกลงจะออกจากที่เช่า และโจทก์ยอมให้อยู่ต่อไป ๓ เดือน ได้ทำสัญญากัน ไว้ตามเอกสาร จ. ๕ ถึง จ. ๑๑ ซึ่งมีความสำคัญว่า “ผู้เช่าขอเช่ามีกำหนดเวลาสามเดือน ตั้งแต่วันที่ ๕ เดือนเมษายน พ.ศ. ๒๔๙๒ จนถึงวันที่ ๕ กรกฎาคม พ.ศ.๒๔๙๒ เพื่ออยู่อาศัยชั่วคราว โดยผู้ให้เช่าแจ้งให้ทราบแล้วว่า จะรื้อห้องนี้ ผู้เช่าจึงขอ ให้ความยินยอมไว้ว่า จะย้ายไปทันทีเมื่อครบกำหนดเวลาเช่า ผู้ให้เช่าตกลงให้ค่าย้ายสามร้อยบาทถ้วน”
ศาลฎีกาเห็นว่า ข้อความในสัญญาดังกล่าวเป็นการได้รับความยินยอมจากผู้เช่าแล้ว และเป็นการผูกพันกันทั้ง ๒ ฝ่าย
อนึ่งคดีนี้ โจทก์มีคำขอให้จำเลยมารับเงินค่าขนย้ายบ้านจากโจทก์ห้องละ ๓๐๐ บาท ด้วย.
จึงพิพากษาแก้เฉพาะให้โจทก์วางเงินค่าขนย้ายบ้านห้องละ ๓๐๐ บาท ให้จำเลย นอกนั้นคงยืน.

Share