คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1045/2506

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2477 มาตรา 9 วรรคสามบัญญัติว่า “ในทางที่ไม่ใช่ทางแยก ห้ามไม่ให้เลี้ยวตัดหน้ารถยนต์หรือรถรางที่กำลังแล่นภายในระยะน้อยกว่าสิบห้าเมตร”
การที่จำเลยเลี้ยวรถจะเข้าทางแห่งหนึ่งตัดหน้ารถจักรยานยนต์ที่โจทก์ขับขี่มาข้างหลังภายในระยะ 7-8 เมตร จะถือว่าจำเลยฝ่าฝืนบทกฎหมายมาตรานี้ ทำให้โจทก์บาดเจ็บสาหัสโดยประมาทตามอุทธรณ์ของโจทก์หรือไม่เป็นปัญหาข้อกฎหมาย

ย่อยาว

คดีนี้ โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ขับขี่รถจักรยานยนต์ตามรถยนต์จำเลย จำเลยเลี้ยวรถยนต์เข้าทางแห่งหนึ่งโดยไม่ได้ให้สัญญาณเลี้ยว ทำให้รถโจทก์ซึ่งขับขี่ตามมาหยุดไม่ทัน ชนรถยนต์จำเลยโดยแรงเป็นเหตุให้จำเลยบาดเจ็บสาหัส ทั้งนี้ เนื่องจากจำเลยขับรถโดยประมาทด้วยความเร็วปราศจากความระวัง เลี้ยวรถโดยไม่ดูกระจกหลังก่อน ผิดต่อพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2477 มาตรา 9, 29(4), 31(2) ขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 300

ศาลแขวงพระนครใต้ไต่สวนมูลฟ้องแล้วเห็นว่าคดีโจทก์มีมูลประทับฟ้อง

จำเลยให้การปฏิเสธต่อสู้ว่าโจทก์ขับขี่รถจักรยานยนต์มาโดยความเร็ว ขับแซงขวาขึ้นมาโดยไม่ให้สัญญาณ เป็นความผิดของโจทก์เอง

ศาลแขวงพระนครใต้พิจารณาแล้วเห็นว่า หลักฐานยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยประมาท โจทก์บาดเจ็บสาหัสเพราะโจทก์ขับรถมาโดยไม่ชลอความเร็วลง รถจึงชนกัน พิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์ ศาลแขวงพระนครใต้สั่งว่า อุทธรณ์ของโจทก์เป็นปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง มาตรา 22 ไม่รับอุทธรณ์

โจทก์อุทธรณ์คำสั่ง ศาลอุทธรณ์เห็นว่า อุทธรณ์ของโจทก์เป็นปัญหาข้อเท็จจริง สั่งยกอุทธรณ์คำสั่ง

โจทก์ฎีกาคำสั่งศาลอุทธรณ์ว่า อุทธรณ์ของโจทก์เป็นปัญหาข้อกฎหมาย ให้ศาลอุทธรณ์รับอุทธรณ์ของโจทก์ไว้พิจารณา

ศาลฎีกาเห็นว่า พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2477 มาตรา 9วรรค 3 บัญญัติว่า “ในทางที่ไม่ใช่ทางแยก ห้ามไม่ให้เลี้ยวตัดหน้ารถยนต์หรือรถรางที่กำลังแล่นภายในระยะน้อยกว่าสิบห้าเมตร” ฉะนั้นการที่จำเลยเลี้ยวรถจะเข้าทางแห่งหนึ่งตัดหน้ารถจักรยานยนต์ที่โจทก์ขับขี่มาข้างหลังภายในระยะประมาณ 7-8 เมตร ตามที่ศาลชั้นต้นฟังมา จะถือว่าจำเลยฝ่าฝืนบทกฎหมายมาตรานี้ ทำให้โจทก์บาดเจ็บสาหัสโดยประมาทตามอุทธรณ์ของโจทก์หรือไม่ จึงเป็นปัญหาข้อกฎหมาย ที่ศาลอุทธรณ์พึงวินิจฉัยให้ พิพากษายกคำสั่งศาลอุทธรณ์ ให้ศาลอุทธรณ์ชี้ขาดในข้อกฎหมายว่า จำเลยประมาทเพราะมิได้ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2477 มาตรา 9 วรรคสาม หรือไม่ แล้วพิพากษาไปตามรูปคดี

Share