คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1041/2518

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ในการขายทอดตลาดของศาล ว. ผู้รับมอบอำนาจจากจำเลยให้ราคาสูงสุด ช. ให้ราคารองลงมา ศาลสั่งอนุญาตให้ขายแก่ ว.ให้ว. วางเงินมัดจำในวันนั้น หากไม่นำเงินมาวางก็เป็นอันยกเลิกไม่ขายให้ ว. และให้ขายแก่ ช.ให้ ช. วางมัดจำในวันที่กำหนดให้ว. ขอผัดวางเงินศาลไม่อนุญาต ดังนี้ ศาลจะสั่งให้ขายให้แก่ ช. โดยมิได้ขายทอดตลาดใหม่หาได้ไม่เพราะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 514 เมื่อ ว. ได้สู้ราคาสูงขึ้นไปกว่า ช. ช. ย่อมพ้นความผูกพันในราคาที่ตนสู้ และศาลก็ได้สั่งให้ขายให้ ว. เมื่อ ว. ไม่ชำระราคาตามกำหนดและศาลไม่อนุญาตให้ผัดการวางเงินออกไปอีกว. จึงเป็นผู้สู้ราคาสูงสุดที่ได้ละเลยเสียไม่ใช้ราคาศาลจะต้องเอาทรัพย์นั้นออกขายอีกซ้ำ ตามมาตรา 516 ถ้าได้เงินเป็นจำนวนสุทธิไม่คุ้มราคาและค่าขายทอดตลาดชั้นเดิมจำเลยโดย ว. ผู้รับมอบอำนาจจะต้องรับผิดในส่วนที่ขาดนั้น

ย่อยาว

คดีนี้โจทก์ฟ้องบังคับจำนองต่อศาลแพ่ง ชนะคดีแล้วนำยึดที่ดินจำนองเพื่อขายทอดตลาด โดยศาลแพ่งมอบให้ศาลจังหวัดระยองดำเนินการแทน ได้ทำการขายทอดตลาดครั้งแรก เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2516แต่ศาลจังหวัดระยองเห็นว่าผู้เข้าสู้ราคาให้ราคาต่ำ จึงสั่งให้ประกาศขายทอดตลาดใหม่ เจ้าพนักงานบังคับคดีได้ทำการขายทอดตลาดอีกครั้งเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2517 และได้รายงานต่อศาลจังหวัดระยองว่า ผู้แทนโจทก์มาศาล ส่วนจำเลยไม่มาแต่มอบให้นางวรรณีช้อนทอง มาสู้ราคาแทน เจ้าพนักงานบังคับคดีจึงทำการขายทอดตลาดไปมีผู้เข้าสู้ราคา 5 คน ปรากฏว่านางวรรณีให้ราคา 300,000 บาทซึ่งเป็นราคาสูงสุดนายชาลี ศรีประศาสน์ ให้ราคารองลงมาเป็นเงิน211,000 บาท เจ้าพนักงานบังคับคดีเห็นว่าราคาที่ผู้เข้าสู้ราคาให้นี้เป็นราคาสูงกว่าประเมิน สมควรขายได้ จึงขอให้ศาลจังหวัดระยองมีคำสั่ง ศาลจังหวัดระยองได้มีคำสั่งในวันนั้นเองว่า “อนุญาตให้ขายแก่นางวรรณี ช้อนทอง ในราคา 300,000 บาท โดยให้นางวรรณีวางเงินมัดจำ 25 % ของราคาขายภายในวันนี้ในเวลาราชการ หากนางวรรณีไม่นำเงินมาวางมัดจำในเวลาดังกล่าว ก็เป็นอันยกเลิกไม่ขายให้แก่นางวรรณี และให้ขายแก่ผู้ให้ราคาสูงคนถัดไป (นายชาลี)และให้นายชาลีนำเงินมัดจำวางมาภายในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2516(วันที่ 23, 24 กุมภาพันธ์ เป็นวันเสาร์และวันอาทิตย์)”

ในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2517 นั้น นางวรรณีได้ยื่นคำแถลงต่อศาลจังหวัดระยองว่า ผู้แถลงในฐานะผู้รับมอบอำนาจจากจำเลยขอผัดวางเงินต่อศาลภายใน 10 วันนับแต่วันนี้ ศาลจังหวัดระยองมีคำสั่งในวันเดียวกันว่า “ตามพฤติการณ์ไม่มีเหตุที่จะขยายเวลาวางเงินไปได้จึงให้ยกคำร้อง”

ครั้นวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2517 นายชาลีได้นำเงินค่าซื้อทรัพย์ร้อยละ 25 เป็นเงิน 52,500 บาทวางต่อเจ้าพนักงานบังคับคดีและทำสัญญาซื้อขายที่ดินแปลงนี้ในราคา 211,000 บาท จำเลยอุทธรณ์คำสั่ง ขอให้อนุญาตจำเลยนำเงินมาวางศาลภายใน 10 วัน โดยให้ยกเลิกคำสั่งศาลจังหวัดระยองที่ขายทรัพย์แก่นายชาลีเสีย

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 514อันเป็นบทว่าด้วยการขายทอดตลาดบัญญัติว่า “ผู้สู้ราคาย่อมพ้นความผูกพันในราคาซึ่งตนสู้แต่ขณะเมื่อมีผู้อื่นสู้ราคาสูงขึ้นไป ไม่ว่าการที่ผู้อื่นสู้นั้นจะสมบูรณ์หรือมิสมบูรณ์ประการใด ฯลฯ” กรณีนี้เมื่อนายชาลีสู้ถึงราคา 211,000 บาท นางวรรณี ช้อนทอง สู้ราคาสูงขึ้นไปเป็น 300,000บาท นายชาลีย่อมพ้นจากความผูกพันในราคา 211,000 บาทนั้นแล้วและศาลจังหวัดระยองก็ได้สั่งขายให้นางวรรณีผู้ให้ราคาสูงสุด โดยที่ประกาศกองบังคับคดีแพ่ง ในการขายทอดตลาดที่ดินรายนี้กำหนดเงื่อนไขให้ผู้ซื้อต้องวางเงินมัดจำร้อยละ 25 ของราคาทรัพย์ในเมื่อตกลงราคาแล้ว เมื่อนางวรรณีไม่ชำระราคาตามเวลาที่กำหนดไว้ในคำโฆษณาบอกขายและศาลจังหวัดระยองไม่อนุญาตให้ผัดการวางเงินออกไปอีก นางวรรณี จึงเป็นผู้สู้ราคาสูงสุดได้ละเลยเสียไม่ใช้ราคา ศาลจังหวัดระยองผู้ดำเนินการขายทอดตลาดจะต้องเอาทรัพย์สินนั้นออกขายอีกซ้ำหนึ่งตามมาตรา 516 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ถ้าและได้เงินเป็นจำนวนสุทธิไม่คุ้มราคาและค่าขายทอดตลาดชั้นเดิม จำเลยโดยนางวรรณีผู้รับมอบอำนาจจะต้องรับผิดในส่วนที่ขาดนั้น ฉะนั้น การที่ศาลจังหวัดระยองมีคำสั่งให้ขายทรัพย์รายนี้ให้แก่นายชาลีผู้ให้ราคาสูงคนถัดไป โดยมิได้ขายทอดตลาดใหม่ จึงไม่ชอบด้วยบทบัญญัติดังกล่าวจำเลยมีสิทธิที่จะขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดนั้นเสียได้

พิพากษากลับให้ศาลจังหวัดระยองดำเนินการขายทอดตลาดใหม่

Share