คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1037/2542

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

ขณะเกิดเหตุผู้เสียหายเพียงแต่ใช้มือผลักอกจำเลยจนล้มลง โดยผู้เสียหายไม่มีอาวุธใด ๆ ส่วนจำเลยแม้จะเป็นคนพิการ แขนขาด้านซ้ายอ่อนแรง กล้ามเนื้อลีบ เดินกะเผลก แต่กลับใช้มือขวาซึ่งสมบูรณ์แข็งแรงถือใบเลื่อยที่ดัดแปลง เป็นมีดปลายแหลมยาวรวมทั้งตัวใบมีดและส่วนที่เป็นด้าม ประมาณ 6 นิ้ว เป็นอาวุธแทงทำร้ายร่างกายผู้เสียหาย หลายครั้งจนได้รับอันตรายสาหัส ทั้งที่ไม่ปรากฏว่าผู้เสียหายจะทำร้ายจำเลยมากไปกว่าการผลักอกถือได้ว่าจำเลยกระทำไปเกินสมควรกว่าเหตุและเกินกว่ากรณีแห่งการจำต้อง กระทำเพื่อป้องกัน อาวุธที่จำเลยใช้ทำร้ายผู้เสียหายเป็นใบเลื่อยที่ดัดแปลงเป็นมีดปลายแหลม ส่วนที่เป็นใบมีดยาวเกินกว่า 3 นิ้วหากแทงถูกอวัยวะส่วนสำคัญของร่างกายอาจทำให้ผู้เสียหายถึงแก่ความตายได้ พฤติการณ์แห่งคดีเป็นเรื่องร้ายแรงไม่สมควรรอการลงโทษให้จำเลย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 297 และริบมีดของกลาง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 297(8), 68, 69 จำคุก 2 ปีคำให้การชั้นสอบสวนของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78หนึ่งในสาม คงจำคุก 1 ปี 4 เดือน ของกลางให้ริบ
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา โดยผู้พิพากษาซึ่งลงชื่อในคำพิพากษาศาลอุทธรณ์อนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงรับฟังเป็นยุติว่าก่อนเกิดเหตุผู้เสียหายไม่พอใจจำเลยแล้วตามไปสอบถามกับผลักอกจำเลยจนล้มลง จำเลยลุกขึ้นแล้วใช้ใบเลื่อยของกลางแทงผู้เสียหายหลายครั้งได้รับบาดเจ็บสาหัสคงมีปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยว่า การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุหรือไม่ เห็นว่า ขณะเกิดเหตุผู้เสียหายเพียงแต่ใช้มือผลักอกจำเลยจนล้มลงโดยผู้เสียหายไม่มีอาวุธใด ๆ ส่วนจำเลยแม้จะเป็นคนพิการแขนขาด้านซ้ายอ่อนแรง กล้ามเนื้อลีบ เดินกะเผลก แต่กลับใช้มือขวาซึ่งสมบูรณ์แข็งแรงถือใบเลื่อยที่ดัดแปลงเป็นมีดปลายแหลมยาวรวมทั้งตัวใบมีดและส่วนที่เป็นด้ามประมาณ 6 นิ้ว เป็นอาวุธแทงทำร้ายร่างกายผู้เสียหายหลายครั้งจนได้รับอันตรายสาหัสทั้งที่ไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่า ผู้เสียหายจะทำร้ายจำเลยมากไปกว่าการผลักอกจำเลย จึงถือได้ว่าจำเลยกระทำไปเกินสมควรกว่าเหตุและเกินกว่ากรณีแห่งการจำต้องกระทำเพื่อป้องกันตัวที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาลงโทษจำเลยมานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยส่วนที่จำเลยฎีกาขอให้รอการลงโทษนั้น เห็นว่า อาวุธที่จำเลยใช้ทำร้ายผู้เสียหายเป็นใบเลื่อยที่ดัดแปลงเป็นมีดปลายแหลมส่วนที่เป็นใบมีดยาวเกินกว่า 3 นิ้ว หากแทงถูกอวัยวะส่วนสำคัญของร่างกายอาจทำให้ผู้เสียหายถึงแก่ความตายได้ตามพฤติการณ์แห่งคดีถือว่าเป็นเรื่องร้ายแรง ที่ศาลล่างทั้งสองใช้ดุลพินิจไม่รอการลงโทษแก่จำเลยนั้น นับว่าเหมาะสมแล้ว ไม่มีเหตุที่ศาลฎีกาจะเปลี่ยนแปลงแก้ไข ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน

Share