คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1032/2492

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยเป็นเจ้าของที่ดินมือเปล่าร่วมกับ อ. จำเลยได้เชิด อ.เป็นตัวแทนให้ฟ้องคดีและขายนารายนี้ให้แก่โจทก์ และจำเลยปล่อยให้โจทก์ครอบครองโดยสงบและเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของเกินกว่า 1 ปี โจทก์ย่อมได้กรรมสิทธิในที่ดินนั้น.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า นายอิ่มได้ทำหนังสือสัญญาขายกรรมสิทธิที่นาให้แก่โจทก์ ๆ ได้ครอบครองและทำประโยชน์โดยความสงบและเปิดเผยตลอดมา จำเลยได้ขอให้เจ้าพนักงานทะเบียนที่ดินออกประกาศเพื่อรับใบแทนใบนำที่นารายนี้เพื่อเป็นมฤดกของจำเลย ขอให้ศาลแสดงกรรมสิทธิและห้ามจำเลยมิให้เข้ามาเกี่ยวข้อง จำเลยให้การว่า ที่นาพิพาทเป็นของบิดามารดาจำเลยและนายอิ่ม บิดามารดาจำเลยให้นายเจียมนางต่วนยึดไว้เป็นประกันเงินกู้ บิดามารดาจำเลยตาย นายอิ่มได้ฟ้องขอชำระหนี้ให้นายเจียม นางต่วน จำเลยกับนายอิ่มได้ครอบครองร่วมกันมา นายอิ่มได้เอาที่นาพิพาทไปให้โจทก์ยึดไว้เป็นประกันเงินกู้ นายอิ่มไม่มีอำนาจเอาที่รายพิพาทซึ่งเป็นมฤดกร่วมกันไปขายให้แก่โจทก์ เป็นการฝ่าฝืนประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๓๖๑,๔๕๖ โจทก์ได้ครอบครองเพียง ๒ ปียังไม่ได้กรรมสิทธิ ศาลชั้นต้นฟังว่า นารายพิพาทเป็นที่นามือเปล่า จำเลยได้เชิดนายอิ่มเป็นตัวแทนของตนในการฟ้องนายเจียมนางต่วน และขายนารายพิพาทให้แก่โจทก์ จำเลยต้องรับผิดตาม ป.ม.แพ่งฯ มาตรา ๘๒๑ หากจำเลยไม่ขาดสิทธิตามลักษณะตัวแทน จำเลยก็ทราบการซื้อขายแล้ว ไม่ฟ้องร้องเกิน ๑ ปี จำเลยก็ขาดสิทธิเช่นเดียวกัน พิพากษาห้ามมิให้จำเลยเกี่ยวข้องนารายพิพาทต่อไป
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า นารายพิพาทเป็นที่มือเปล่า เจ้าของมีแต่สิทธิครอบครอง แม้จำเลยจะมีส่วนเป็นเจ้าของร่วมกับนายอิ่ม และการซื้อขายระหว่างโจทก์กับนายอิ่มไม่ถูกต้องตามกฎหมายก็ดี จำเลยได้เชิดนายอิ่มเป็นตัวแทนให้ฟ้องคดีและขายนารายนี้แก่โจทก์ และจำเลยปล่อยให้โจทก์ครอบครองโดยสงบและเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของเกินกว่า ๑ ปี โจทก์ย่อมมีสิทธิดีกว่า
พิพากษายืน

Share