คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1029/2510

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คดีมีทุนทรัพย์ 2,500 บาท โดยทรัพย์สินที่โจทก์เรียกร้องขอให้จำเลยโอนให้แก่โจทก์มีที่ดินปลูกบ้านและต้นไม้ ราคา 1,500 บาท เรือน 1 หลัง ราคา 700 บาท ยุ้งข้าว 1 หลัง ราคา 300 บาท และขอห้ามจำเลยและบริวารเข้าเกี่ยวข้อง ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยโอนที่ดินให้แก่โจทก์ ห้ามจำเลยและบริวารเข้ามาเกี่ยวข้อง คำขอนอกจากนี้ให้ยก ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ เป็นห้ามมิไห้จำเลยเข้าเกี่ยวข้องกับเรือนและยุ้งข้าวของโจทก์ นอกจากนี้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ดังนี้ เป็นแก้น้อย (อ้างฎีกาที่ 74/2494)

ย่อยาว

คดีนี้ โจทย์ฟ้องขอบังคับให้จำเลยโอนที่ดินสำหรับอาศัยและสิ่งปลูกสร้างให้โจทก์ห้ามจำเลยและบริวารเข้าเกี่ยวข้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองโอนที่ดินที่ใช้อยู่อาศัยให้แก่โจทก์ ถ้าจำเลยไม่ปฏิบัติตาม ก็ให้ถือเอาคำพิพากษาของศาลเป็นการแสดงเจตนาของจำเลย ห้ามจำเลยและบริวารเกี่ยวข้อง คำขอท้ายฟ้องของโจทก์นอกจากนี้ให้ยก
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ห้ามมิให้จำเลยเข้าเกี่ยวข้องกับเรือนและยุ้งข้าวของโจทก์ นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า คดีนี้มีทุนทรัพย์ทั้งสิ้น ๒,๕๐๐ บาท ซึ่งปรากฏตามทางพิจารณาว่าที่ดินปลูกบ้านและต้นผลไม้มีราคา ๑,๕๐๐ บาท เรือน ๑ หลัง ราคา ๗๐๐ บาท ยุ้งข้าว ๑ หลัง ราคา ๓๐๐ บาท ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้คำพิพากษาของศาลชั้นต้นแต่เพียงเรือนและยุ้งข้าวซึ่งปลูกอยู่ในที่ดินเท่านั้น เห็นว่า เป็นแก้น้อย ต้องห้ามมิให้ฎีกาในข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๔๘ ตามนัยแห่งคำพิพากษาฎีกาที่ ๗๔/๒๔๙๔
พิพากษาให้ยกฎีกาจำเลย.

Share