คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1029/2477

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์จะขอให้ศาลสั่งให้ยึดเบี้ยบำนาญของจำเลยโดยสั่งให้เจ้าพนักงานของรัฐบาลผู้มีหน้าที่จ่ายเงินแก่จำเลยนำเงินมาส่งมอบให้โจทก์ไม่ได้เพราะเจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่เบิกจ่ายเงินให้แก่จำเลยไม่ได้เป็นลูกหนี้จำเลย

ย่อยาว

คดีนี้ศาลเดิมพิพากษาให้จำเลยใช้เงินซึ่งค้างชำระค่าภาษีโรงร้านแก่รัฐบาลเป็นเงิน ๓๐๐ บาท ๒๕ สตางค์ จำเลยไม่มีทรัพย์อะไรจะให้ยึด แต่ปรากฎว่าจำเลยได้รับเงินเบี้ยหวัดหรือเบี้ยบำนาญเดือนละ ๒๙๑ บาท ๖๖ สตางค์ โจทก์จึงร้องต่อศาลแพ่งขอให้มีคำสั่งยึดเบี้ยหวัดหรือเบี้ยบำนาญของจำเลยโดยสั่งให้ บ.สมุหบัญชีเบิกจ่ายในฐานะเป็นลูกหนี้หรือในฐานมีหน้าที่ต้องส่งมอบทรัพย์แก่จำเลยนำเงินที่เบิกจ่ายส่งศาลหรือให้เจ้าพนักงานออกหมายเพื่อใช้ให้โจทก์ต่อไป
ศาลเดิมเห็นว่ารัฐบาลไม่ได้เป็นลูกหนี้จำเลยในจำนวนเงินที่โจทก์ขอยึดโจทก์ยึดไม่ได้ ให้ยกคำร้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ศาลฎีกาเห็นว่า ถึงแม้ว่า บ.ซึ่งเป็นสมุหบัญชีเป็นผู้เบิกและจ่ายเงินเบี้ยหวัดหรือเบี้ยบำนาญให้แก่จำเลยก็ดี ก็ไม่มีกฎหมายบทใดสนับสนุนให้ถือได้ว่า บ.เป็นลูกหนี้จำเลย ฉะนั้นโจทก์จะร้องขอให้ศาลสั่งให้ บ.ส่งเงินเบี้ยหวัดหรือเบี้ยบำนาญต่อศาลหรือต่อเจ้าพนักงานกองหมายตามความในมาตรา ๘ แห่ง พ.ร.บ.วิธีพิจารณาความแพ่งไม่ได้ จึงพิพากษายืนตามศาลล่าง

Share