แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การเอาขยะไปถมที่ดินโจทก์โดยมิได้เข้าไปครอบครองไม่เป็นการแย่งการครอบครองที่ดิน
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์กับภรรยาเป็นเจ้าของที่ดินโฉนดเลขที่ 159 ตำบลกะทู้ อำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต โดยโจทก์ได้ครอบครองที่ดินดังกล่าวตลอดมา ต่อมาจำเลยเอาเสามาปักและกั้นลวดหนามล้อมรั้วที่ดินของโจทก์เป็นเนื้อที่ 60 ตารางวาไม่ให้โจทก์เข้าไปดูแลเก็บพืชผลของโจทก์ ขอให้พิพากษาให้จำเลยรื้อถอนรั้วที่กั้นที่ดินและชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์
จำเลยให้การว่าโจทก์มิได้เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินโฉนดเลขที่ 159 จำเลยครอบครองที่ดินพิพาทอย่างเป็นเจ้าของติดต่อกันมาตั้งแต่ พ.ศ. 2457 จนถึงบัดนี้ โจทก์มิได้เสียหาย คดีโจทก์ขาดอายุความ
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าจำเลยเป็นฝ่ายครอบครองที่พิพาท พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้จำเลยรื้อถอนรั้วออกไปและให้ใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ที่จำเลยฎีกาว่าโจทก์ไปร้องเรียนกับผู้ใหญ่บ้านเป็นครั้งแรกเมื่อ 2 ปีมาแล้วว่า จำเลยเอาขยะไปถมที่ดินโจทก์ โจทก์ย่อมเสียสิทธิที่จะเอาคืนซึ่งการครอบครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1375 นั้น เห็นว่าการเอาขยะไปถมที่ดินโจทก์โดยมิได้เข้าไปครอบครอง ไม่เป็นการแย่งการครอบครองที่ดินแต่อย่างใด ศาลอุทธรณ์พิพากษาคดีชอบแล้ว ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน