คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1027/2537

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

แม้บริษัทประกันภัยที่โจทก์เอาประกันภัยไว้จะเป็นผู้จ่ายค่ารักษาพยาบาลให้แก่โรงพยาบาลแทนโจทก์ไปแล้วอันเป็นสิทธิของโจทก์ที่เกิดขึ้นโดยอาศัยสัญญาประกันภัย แต่โจทก์ก็ยังมีสิทธิเรียกเอาค่ารักษาพยาบาลจากจำเลยได้อีก เพราะจำเลยมีหน้าที่ตามกฎหมายที่จะต้องรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนในมูลละเมิดที่ได้กระทำต่อโจทก์

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทำร้ายโจทก์โดยชกต่อยที่ใบหน้าทำให้โจทก์ได้รับอันตรายแก่กาย และเงินสดของโจทก์จำนวน 25,000 บาท ได้สูญหายไป โจทก์ต้องรับการรักษาพยาบาลรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 124,119บาท และโจทก์ต้องขาดประโยชน์จากการทำมาหาได้ในระหว่างเจ็บป่วยรวมค่าขาดประโยชน์เป็นเงิน 400,000 บาท และทำให้โจทก์เสียบุคลิกลักษณะ จึงขอคิดค่าเสียหายในส่วนนี้เป็นเงิน 50,000 บาท กับจำเลยต้องชดใช้เงินจำนวน 25,000 บาท ที่สูญหายแก่โจทก์ด้วย รวมค่าเสียหายทั้งสิ้นเป็นเงิน 599,119 บาท และดอกเบี้ย 43,000 บาทขอให้บังคับจำเลยใช้เงินจำนวน 624,119 บาท พร้อมดอกเบี้ย
จำเลยให้การว่า โจทก์เองเป็นฝ่ายก่อเหตุและเป็นผู้ยั่วยุให้เกิดเหตุละเมิดต่อจำเลย โจทก์มิได้บาดเจ็บตามฟ้อง วันเกิดเหตุโจทก์ไม่ได้มีเงินสดจำนวน 25,000 บาท ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาให้จำเลยใช้เงิน 55,044 บาทแก่โจทก์ พร้อมดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับตั้งแต่วันละเมิด(วันที่ 29 ตุลาคม 2528) เป็นต้นไปจนกว่าจะใช้เงินเสร็จ ให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความเป็นเงิน 5,000บาท คำขออื่นของโจทก์นอกจากนี้ให้ยก
โจทก์และจำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยใช้ค่ารักษาพยาบาลอีก 54,775 บาท รวมเป็นค่าเสียหายทั้งสิ้น 109,819 บาท แก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับแต่วันทำละเมิด (วันที่29 ตุลาคม 2528) เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์เป็นพับ
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ปัญหาตามฎีกาของจำเลยว่าค่าเสียหายที่โจทก์ควรจะได้รับมีเพียงใด เห็นว่า สำหรับค่ารักษาพยาบาลที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์จำนวน 54,775 บาท ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่าโจทก์ได้เสียค่ารักษาพยาบาลตามจำนวนข้างต้นไปจริง และแม้จะได้ความว่าบริษัทประกันคุ้มภัย จำกัด ที่โจทก์เอาประกันภัยไว้จะเป็นผู้จ่ายค่ารักษาพยาบาลในส่วนนี้ให้แก่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์แทนโจทก์ไปแล้วอันเป็นสิทธิของโจทก์ที่เกิดขึ้นโดยอาศัยสัญญาประกันภัยดังกล่าว แต่โจทก์ก็ยังมีสิทธิเรียกเอาค่ารักษาพยาบาลจากจำเลยได้อีก เพราะจำเลยมีหน้าที่ตามกฎหมายที่จะต้องรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนในมูลละเมิดที่ได้กระทำต่อโจทก์ส่วนจะเป็นจำนวนเท่าใด เนื่องจากโจทก์มีส่วนผิดอยู่ด้วยเห็นสมควรให้โจทก์ได้รับค่ารักษาพยาบาลจากจำเลยจำนวน 35,000 บาท และให้โจทก์ได้รับค่าขาดประโยชน์ทำมาหาได้จากจำเลยเป็นเงิน 15,000 บาทกับค่าเสียหายจากการทนทุกข์ทรมานและเสื่อมเสียสุขภาพอนามัยจำนวน20,000 บาท
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยใช้เงินจำนวน 75,044 บาท แก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันละเมิด (วันที่29 ตุลาคม 2528) เป็นต้นไปจนกว่าจะใช้เงินเสร็จ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ

Share