คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1024/2479

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ปลูกเรือนชายคาล้ำเข้าไปในที่ดินของผู้อื่นโดยเจ้าของที่เขายินยอมให้ทำด้วยปากเปล่า เจ้าของยังมีสิทธิขอให้รื้อชายคาออกเสียจากที่ดินของเขาได้
อายุความฟ้องร้อง 1 ปีตามม.1375 ใช้ฉะเพาะในเรื่องซึ่งผู้ถูกแย่งมีสิทธิเพียงครอบครอง ไม่ใช่ผู้ถูกแย่งมีกรรมสิทธิตัดสินเกินคำขอ
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยรื้อหลังคาที่ปลูกรุกล้ำเข้ามาในเขตต์ที่ดินของโจทก์ศาลตัดสินให้จำเลยใช้เงิน 25 บาทแทนการรื้อชายคาตาม ป.พ.พ.ม.1312 ไม่เรียกว่าเป็นการตัดสินเกินคำขอตามประมวลวิธีพิจารณาแพ่ง ม.142

ย่อยาว

คดีได้ความว่าโจทก์จำเลยมีที่ดินติดต่อกัน แต่ที่ดินของจำเลยมีส่วนกว้างจำกัดไม่พอตัวเรือนที่จะปลูก จำเลยจึงปักเสาเรือนตรงเขตต์แดน และหลังคาเรือนล้ำเข้าไปในที่ของโจทก์ ๆ ได้ว่ากล่าวทักท้วงในขณะสร้าง แต่จำเลยพูดจะรับรองว่าจะไม่เอาที่ ๆ ชายคารุกเข้าไปนี้ โจทก์ยอมและกั้นรั้วตามแนวเขตต์แนบเสาเรือนจำเลย ต่อมารั้วโจทก์ผุ โจทก์จะทำรั้วใหม่ตามแนวเดิม จำเลยขัดขวางไม่ยอมให้ทำโจทก์จึงฟ้องขอให้ศาลบังคับจำเลยรื้อหลังคาและรั้วให้พ้นที่ดินของโจทก์ และห้ามอย่าให้จำเลยเกี่ยวข้องในที่ดินต่อไป
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาต้องกันให้จำเลยรื้อถอนหลักกระทู้ออกไปจากที่วิวาทและให้จำเลยใช้เงินค่าใช้ที่ดินในตอนที่ชายคาล้ำให้แก่โจทก์ ๒๕ บาท
จำเลยฎีกาว่า ศาลยกประมวลแพ่งฯ ม.๑๓๑๒ บังคับคดีเป็นการเกินคำขอไม่ชอบด้วย ม.๑๔๒ ประมวลวิธีพิจารณาความแพ่ง และว่าจำเลยทำชายคาเรือนรุกที่ดินโจทก์โดยปรปักษ์ตาม ม.๑๓๗๔-๑๓๗๕ มีอายุความให้ฟ้องภายใน ๑ ปี คดีโจทก์จึงขาดอายุความ
ศาลฎีกาตัดสินว่าคดีนี้ข้อเท็จจริงต้องถือตามศาลล่างทั้งสอง ซึ่งเห็นว่าพฤตติการณ์แห่งคดีเรื่องนี้ ไม่เรียกว่าจำเลยเข้าแย่งการครอบครองโดยปรปักษ์ แต่อย่างใดเมื่อโจทก์ยอมให้จำเลยทำชายคาล้ำเข้าไปในเขตต์ที่ดินของโจทก์โดยปากเปล่า ก็ยังมีสิทธิขอให้จำเลยรื้อชายคาออกเสียจากที่ดินได้ และคดีเรื่องนี้เป็นเรื่องว่าด้วยกรรมสิทธิ ส่วนมาตรา ๑๓๗๔-๑๓๗๕ เป็นเรื่องการครอบครอง ฉะนั้นข้อต่อสู้ของจำเลยจึงตกไป ส่วนข้อที่ว่าศาลบังคับเกินคำขอนั้น เห็นว่าการที่ศาลบังคับให้จำเลยเสียเงินแก่เจ้าของที่ดินแทนที่จะให้รื้อชายคาตามคำขอท้ายฟ้องเป็นการบังคับแทนกันและกันไม่เรียกว่าเป็นการเกินคำขอตามมาตรา ๑๔๒ จึงพิพากษายืน ให้ยกฎีกาจำเลย

Share