คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 10207/2558

แหล่งที่มา : สำนักวิชาการ

ย่อสั้น

เจ้าหนี้ไม่มีประกันที่อาจขอรับชำระหนี้ได้ตาม พ.ร.บ.ล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 27 มาตรา 91 และมาตรา 94 นั้น ต้องเป็นเจ้าหนี้ในหนี้เงินที่มูลแห่งหนี้ได้เกิดขึ้นก่อนวันที่ศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ แม้ว่าหนี้นั้นยังไม่ถึงกำหนดชำระหรือมีเงื่อนไขก็ตาม ผู้ร้องขอรับชำระหนี้ในมูลหนี้ที่ลูกหนี้ทำสัญญาประกันการปล่อยชั่วคราวจำเลยในคดีอาญา ซึ่งมีวัตถุแห่งหนี้เป็นกรณีให้ลูกหนี้กระทำการคือให้ลูกหนี้ผู้ประกันนำตัวจำเลยในคดีอาญามาศาลตามนัดหรือหมายเรียกของศาลแขวงชลบุรี และเมื่อลูกหนี้ยังมิได้ผิดสัญญาที่ต้องกระทำการดังกล่าว ลูกหนี้ก็ไม่มีความรับผิดใช้เงินค่าปรับตามที่ศาลมีอำนาจบังคับตามสัญญา หนี้ตามสัญญาประกันในส่วนที่ให้ลูกหนี้กระทำการและยังมิได้ผิดสัญญาจึงมิใช่หนี้เงินที่ต้องขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลาย เมื่อต่อมาหลังจากศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์แล้ว ลูกหนี้ผิดสัญญาประกันและศาลแขวงชลบุรีมีคำสั่งปรับลูกหนี้ ถือว่ามูลหนี้ค่าปรับซึ่งเป็นหนี้เงินที่ลูกหนี้จะต้องชำระตามสัญญาประกันเกิดขึ้นเมื่อศาลมีคำสั่งปรับ แต่เป็นหนี้ที่มิได้เกิดขึ้นก่อนวันที่ศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ ไม่อาจนำหนี้ค่าปรับมาขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลายได้ แม้ผู้ร้องจะเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาในหนี้ค่าปรับตาม ป.วิ.อ. มาตรา 119 วรรคสอง แต่ผู้ร้องก็ยังไม่อาจบังคับคดีแก่ทรัพย์สินของลูกหนี้จนกว่าลูกหนี้จะพ้นจากการล้มละลายแล้ว เพราะเมื่อศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้เด็ดขาดแล้ว อำนาจจัดการกิจการและทรัพย์สินของลูกหนี้ตกแก่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แต่ผู้เดียว ตาม พ.ร.บ.ล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 22 ผู้ร้องจึงไม่มีสิทธิขอรับชำระหนี้

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้ (จำเลย) เด็ดขาดเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2552 ต่อมาวันที่ 22 กันยายน 2553 ผู้ร้องยื่นคำขอรับชำระหนี้ค่าปรับผู้ประกันในคดีอาญาจากกองทรัพย์สินของลูกหนี้เป็นเงิน 140,000 บาท เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีคำสั่งไม่รับคำขอรับชำระหนี้ของผู้ร้อง เนื่องจากยื่นพ้นกำหนดระยะเวลาตามกฎหมาย
ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้มีคำสั่งกลับคำสั่งของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์และให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์รับคำขอรับชำระหนี้ของผู้ร้องไว้ดำเนินการต่อไป
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ยื่นคำคัดค้านว่า หนี้ของผู้ร้องตามสัญญาประกันเกิดขึ้นตั้งแต่วันทำสัญญาประกัน ผู้ร้องต้องยื่นคำขอรับชำระหนี้ภายในเวลาที่กฎหมายกำหนด แม้หนี้จะยังไม่ถึงกำหนดหรือมีเงื่อนไขเพราะศาลยังมิได้มีคำสั่งว่าลูกหนี้ผิดสัญญาก็ตาม การที่ผู้ร้องยื่นคำขอรับชำระหนี้เมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 91 และไม่มีพฤติการณ์พิเศษหรือเหตุสุดวิสัย จึงไม่อาจรับคำขอรับชำระหนี้ของผู้ร้องได้ คำสั่งของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ชอบแล้ว ขอให้ยกคำร้อง
ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งว่า หนี้ตามสัญญาประกันของลูกหนี้เกิดขึ้นตั้งแต่วันทำสัญญาประกัน ซึ่งเป็นวันก่อนวันที่ศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้เด็ดขาด และถือเป็นหนี้ยังไม่ถึงกำหนดหรือมีเงื่อนไข ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 94 ผู้ร้องจึงยื่นคำขอรับชำระหนี้เมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาตามกฎหมาย ยกคำร้องของผู้ร้อง ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ
ผู้ร้องอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีล้มละลายวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังยุติว่า เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้โฆษณาคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้เด็ดขาดในหนังสือพิมพ์สยามรัฐ ฉบับลงวันที่ 23 เมษายน 2553 และในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2553 ครบกำหนดยื่นคำขอรับชำระหนี้วันที่ 28 กรกฎาคม 2553 เนื่องจากวันที่ 25 ถึง 27 กรกฎาคม 2553 ตรงกับวันหยุดราชการ ผู้ร้องเป็นเจ้าหนี้ลูกหนี้ในมูลหนี้ค่าปรับที่ลูกหนี้ทำสัญญาประกันการปล่อยชั่วคราวจำเลยในคดีอาญาหมายเลขดำที่ 2983/2550 หมายเลขแดงที่ 4797/2550 ของศาลแขวงชลบุรีเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2551 ต่อมาวันที่ 8 กันยายน 2553 ลูกหนี้ผิดสัญญาและศาลมีคำสั่งปรับลูกหนี้เป็นเงิน 140,000 บาท ตามสำเนาสัญญาประกัน และสำเนารายงานกระบวนพิจารณา เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2553 ผู้ร้องยื่นคำขอรับชำระหนี้ในมูลหนี้ดังกล่าว
คดีมีปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของผู้ร้องว่า ผู้ร้องมีสิทธิยื่นคำขอรับชำระหนี้หรือไม่ เห็นว่า เจ้าหนี้ไม่มีประกันที่อาจขอรับชำระหนี้ได้ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 27 มาตรา 91 และมาตรา 94 นั้น ต้องเป็นเจ้าหนี้ในหนี้เงินที่มูลแห่งหนี้ได้เกิดขึ้นก่อนวันที่ศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ แม้ว่าหนี้นั้นยังไม่ถึงกำหนดชำระหรือมีเงื่อนไขก็ตาม คดีนี้ผู้ร้องขอรับชำระหนี้ในมูลหนี้ที่ลูกหนี้ทำสัญญาประกันการปล่อยชั่วคราวจำเลยในคดีอาญา ซึ่งมีวัตถุแห่งหนี้เป็นกรณีให้ลูกหนี้กระทำการคือให้ลูกหนี้ผู้ประกันนำตัวจำเลยในคดีอาญามาศาลตามนัดหรือหมายเรียกของศาลแขวงชลบุรี และเมื่อลูกหนี้ยังมิได้ผิดสัญญาที่ต้องกระทำการดังกล่าว ลูกหนี้ก็ไม่มีความรับผิดใช้เงินค่าปรับตามที่ศาลมีอำนาจบังคับตามสัญญา หนี้ตามสัญญาประกันในส่วนที่ให้ลูกหนี้กระทำการและยังมิได้ผิดสัญญาจึงมิใช่หนี้เงินที่ต้องขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลาย เมื่อต่อมาหลังจากศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์แล้ว ลูกหนี้ผิดสัญญาประกันและศาลแขวงชลบุรีมีคำสั่งปรับลูกหนี้ ถือว่ามูลหนี้ค่าปรับซึ่งเป็นหนี้เงินที่ลูกหนี้จะต้องชำระตามสัญญาประกันเกิดขึ้นเมื่อศาลมีคำสั่งปรับ แต่เป็นหนี้ที่มิได้เกิดขึ้นก่อนวันที่ศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ ไม่อาจนำหนี้ค่าปรับมาขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลายได้ แม้ผู้ร้องจะเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาในหนี้ค่าปรับตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 119 วรรคสอง แต่ผู้ร้องก็ยังไม่อาจบังคับคดีแก่ทรัพย์สินของลูกหนี้จนกว่าลูกหนี้จะพ้นจากการล้มละลายแล้ว เพราะเมื่อศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้เด็ดขาดแล้ว อำนาจจัดการกิจการและทรัพย์สินของลูกหนี้ตกแก่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แต่ผู้เดียว ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 22 ผู้ร้องจึงไม่มีสิทธิขอรับชำระหนี้ ที่ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งยกคำร้องของผู้ร้องที่ขอให้กลับคำสั่งของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์นั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยในผล อุทธรณ์ของผู้ร้องฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นนี้ให้เป็นพับ

Share