แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การที่จำเลยทั้งสามได้ไปด้วยกันตั้งแต่แรกที่ลวงผู้ตายให้ไปรับเงินชำระหนี้จากจำเลยที่ 1 และพาผู้ตายไปถึงที่เปลี่ยวเพื่อการฆ่าแล้วได้ฆ่าเสีย แสดงว่า จำเลยทั้ง 3 คนคิดกันประกอบการฆาตกรรมนี้ จึงต้องผิดฐานเป็นตัวการด้วยกันทุกคนตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 289
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 37/2504)
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษฐานสมคบกันฆ่านายเส็งและนางส้อยง้อตาย โดยไตร่ตรองไว้ก่อน โดยทารุณโหดร้ายและเพื่อปกปิดความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘, ๒๘๙, ๘๓ ริบขวานและคีบเหล็กแม่แรง แก่ทายาทผู้ตาย
นางอัญชลีย์ แซ่อึ้ง บุตรผู้ตายขอเป็นโจทก์ร่วม ศาลอนุญาต
จำเลยทั้ง ๓ ให้การปฏิเสธ
ศาลอาญาพิพากษาว่า จำเลยที่ ๑-๒ ทำผิดจริงตามฟ้องส่วนจำเลยที่ ๓ ได้ร่วมทางไปด้วย แต่ไม่มีหลักฐานว่าได้ร่วมฆ่าผู้ตาย ให้จำคุกจำเลยที่ ๑ – ๒ ตลอดชีวิต (ลดโทษแล้วฐานรับชั้นสอบสวน) ตามมาตรา ๒๘๙,๘๓, ๗๘, ๕๒ ส่วนจำเลยที่ ๓ ให้ยกฟ้องริบขวาน คืนแม่แรง แก่ทายาทผู้ตาย
โจทก์ และโจทก์ร่วมอุทธรณ์ขอให้ลงโทษจำเลยที่ ๓ ด้วย ส่วนจำเลยที่ ๑ – ๒ อุทธรณ์ขอให้ยกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์ฟังว่า จำเลยทั้ง ๓ ได้ร่วมกันกระทำผิดจริงตามฟ้อง พิพากษาแก้ว่าจำเลยที่ ๓ ผิดมาตรา ๒๘๙, ๘๓ ให้ประหารชีวิตจำเลยที่ ๓ นอกนั้นยืน
จำเลยทั้ง ๓ ฎีกา
ศาลฎีกาฟังว่า จำเลยทั้ง ๓ ได้ไปด้วยกันตั้งแต่แรกที่ทำการลวงผู้ตายให้ไปรับเงินชำระหนี้จากจำเลยที่ ๑ และพาผู้ตายไปถึงที่เปลี่ยวแล้วฆ่าเสีย โดยมีการวางแผนเตรียมการกันมาก่อน (คือโทรศัพท์นัดผู้ตายให้ไปรับเงินชำระหนี้แล้วซื้อขวานไปด้วยกัน) แสดงว่า จำเลยทั้ง ๓ คบคิดร่วมใจกันประกอบการฆาตกรรมรายนี้ โดยมติที่ประชุมใหญ่เห็นว่า จำเลยทุกคนเป็นตัวการ ฆ่าคนโดยไตร่ตรองไว้ก่อนตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๙, ๘๓
พิพากษายืน